เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เอพี รายงานกรณีอื้ออึงในวงการธุรกิจระดับโลก เมื่อเอกสารด้านการจ่ายภาษีเงินได้ของบรรดาอภิมหาเศรษฐี หรือ ซูเปอร์ริช หลายคนในประเทศสหรัฐอเมริการั่วไหลสู่โลกออนไลน์ เผยว่า บรรดามหาเศรษฐีเบอร์ใหญ่ของโลก ไม่ได้จ่ายภาษี

เว็บไซต์ โพรพับลิกา – ProPublica องค์สื่อเชิงสืบสวนสอบสวน ผู้เผยแพร่เอกสารดังกล่าว ระบุว่า นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเครือแอมะซอน มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ไม่ได้จ่ายภาษีเงินได้ทั้งในปี 2550 และปี 2554

นายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ ก็ไม่ได้จ่ายแม้แต่แดงเดียวในปี 2561 เช่นเดียวกับ นายจอร์จ โซรอส นักการเงินคนดัง ก็ไม่จ่ายภาษีเงินได้ติดต่อกันสามปีรวด

เมื่อส่องภาพรวมมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน รวยสูงสุด 25 คน รวมถึง นายวอร์เรน บัฟเฟต์ นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นายบิล เกตส์ นายรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ฯลฯ พบว่า จ่ายภาษีกันน้อยนิด เฉลี่ยแล้วจ่าย 15.8% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นอัตราน้อยกว่าคนทำงานธรรมดาทั่วไป

การเปิดตัวเลขนี้ตอกย้ำประเด็นการถกเถียงร้อนแรงของประเทศ ว่าช่องว่างความไม่เท่าเทียมกันนั้นห่างกันออกไปกว่ามากกว่าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มที่ร่ำรวยที่สุด

หากเทียบข้อมูลการจัดอันดับมหาเศรษฐี 25 คนแรกของสื่อธุรกิจ ฟอร์บส์ จะเห็นได้ว่า ความมั่งคั่งของคนกลุ่มนี้พุ่งพรวดจากปี 2557 ถึงปี 2561 เป็นมูลค่า 401,000 ล้านดอลลาร์ แต่ช่วงเวลาดังกล่าวกลับจ่ายภาษีเพียง 13,600 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้ระบุอีกว่า อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ตัวเลขการจ่ายภาษีทั้งหมดของเหล่าอภิมหาเศรษฐีหลายคนจากข้อมูลของสำนักงานสรรพากรสหรัฐ (ไออาร์เอส) และจะนำข้อมูลมาเปิดเผยอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ และสำนักงานสืบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ แจ้งว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนหาที่มาของการรั่วไหล พร้อมระบุว่า การนำเอกสารข้อมูลนี้มาเปิดเผยเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ในนโยบายเรื่องภาษี รัฐบาลโจ ไบเดน เสนอแผนเพิ่มภาษีกลุ่มคนรวยที่สุดของประเทศ เพื่อปรับปรุงด้านความเท่าเทียม และยังจะได้ใช้เงินดังกล่าวไปกับโครงการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม