วันที่ 9 มิถุนายน 2564 เมื่อเวลา 14.00 น.นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ดูหมิ่น เหยียดหยาม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และดูถูกว่าจะไม่สามารถพา ส.ส.เข้าสภาได้นั้น ตนเองจึงอยากบอก นายเสกสกลว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นแม่ทัพของพรรคเพื่อไทย และสามารถนำการรณรงค์ให้ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งเข้าสู่สภามากที่สุด โดยได้นำทัพช่วยผู้สมัครไปทุกที่ ลุยทุกเขต

แม้ทราบว่าตัวเองจะสอบตกเพราะพรรคอาจจะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อตั้งแต่ต้น แต่ท่านก็หาเสียงให้พรรคอย่างเต็มที่ไม่มีท้อถอย ดังนั้นแม้คุณหญิงจะลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ ส.ส.ก็ยังเคารพรักท่านอยู่ และเชื่อว่าท่านจะเป็นผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่เป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชนอีกทางเลือกหนึ่งได้อย่างแน่นอน

นายการุณกล่าวต่อไปอีกว่า ตนเองมีความผูกพันกับคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะถ้าไม่มีคุณหญิงก็คงไม่มีการุณในวันนี้ แม้จะอยู่คนละพรรค แต่เมื่อมีคนออกมาสัมภาษณ์ให้ร้ายท่าน ตนเองก็ต้องพูดเพื่อสะท้อนข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้ผู้รับข่าวสารเข้าใจผิด โดยเฉพาะมีการใช้คำว่าเนรคุณไปเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของผู้ให้ข่าว ซึ่งมีข้อเท็จจริงต่างกันราวฟ้ากับเหว

จึงขอพูดให้ฟังชัดๆว่า คุณหญิงสุดารัตน์ไม่เคยเนรคุณประชาชน เหมือนนักการเมืองบางคนที่ขายตัวให้ปีศาจ ไปเลียท็อปบู้ทจนมันแผล่บ เพียงเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางการเมือง และคนเนรคุณประชาชนแบบนี้นั่นเองที่ประชาชนรู้ทัน และไม่ให้ความเชื่อถืออีกแล้ว สอบกี่ครั้งก็เป็นแค่ สส.สอบตก เกาะได้แค่รั้วสภาเท่านั้น และตนเองขอทำนายว่าเลือกตั้งครั้งหน้า นักการเมืองเนรคุณประชาชนแบบนี้ต้องสอบตกอีกอย่างแน่นอน และไม่มีวันได้เข้ามาเหยียบสภาอันทรงเกียรติได้อีก

“นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นจึงต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และคำติชมต่างๆด้วยความเต็มใจ การปล่อยปละละเลยให้ลิ่วล้อออกมาส่งเสียงแบบหมาเห่าใบตองแห้งแบบนี้ เสียเชิงอดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติที่รัฐประหารนายหญิงของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงนายกฯว่า หากยังใช้บริการโมฆะบุรุษเช่นนี้ไปเรื่อยๆ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆแล้ว ตรงข้ามจะยิ่งพานายกฯและบริวารตกต่ำตามไปด้วยอย่างแน่นอน” นายการุณ กล่าว