วันที่ 8 มิ.ย. เดลีเมล์ รายงานเหตุสลดในปากีสถาน เมื่อ นางชามีมา บีกุม หญิงชราวัย 80 ปี เสียชีวิตหลังจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลอ้างตัวเป็นหมอ เรียกรับเงินจากครอบครัวของนางบีกุมและทำการผ่าตัด

ต่อมานางบีกุมมีอาการเจ็บแผลรุนแรงและเลือดออกเป็นจำนวนมาก ครอบครัวจึงพากลับไปโรงพยาบาลก่อนช็อกกับความจริงที่ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นคนผ่าตัดนางบีกุม และ 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัดนางบีกุมก็สิ้นใจท่ามกลางความโศกเศร้าและความโกรธแค้นของคนในครอบครัว

รายงานระบุว่า นายมูฮัมหมัด วาฮีด บุตต์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลเมโยในเมืองละฮอร์ สวมรอยเป็นแพทย์และเจรจาเรื่องค่ารักษาจากญาติของนางบีกุม

จากนั้นทำการผ่าตัดโดยมีบุคลากรทางแพทย์ของโรงพยาบาลเป็นผู้ช่วย เมื่อผ่าตัดเสร็จครอบครัวก็พานางบีกุมกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งนายบุตต์เดินทางไปทำความสะอาดแผลผ่าตัดให้นางบีกุมถึงที่บ้านในช่วงหลายวันต่อมาด้วย

“เราไม่สามารถตรวจสอบหมอทุกคน และไม่สามารถรู้ได้ว่าทุกคนทำอะไรตลอดเวลา นี่เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลระบุ ขณะที่ฝ่ายบริหารโรงพยาบาลอ้างว่านายบุตต์ถูกไล่ออกไปตั้งแต่ 2 ปีก่อน หลังก่อเหตุกรรโชกเงินจากผู้ป่วย

ตำรวจเปิดเผยจากการสอบปากคำในเบื้องต้นว่า นายบุตต์แอบอ้างเป็นหมอมาแล้วหลายครั้ง และเคยไปเยี่ยมผู้ป่วยหลายคนถึงที่บ้านด้วย

ด้านครอบครัวของนางบีกุมกล่าวอีกว่า ศพของนางบีกุมยังเก็บไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อชันสูตรพลิกศพชี้ชัดถึงสาเหตุการตายว่าเป็นผลจากภาวะแทรกซ้อนหรือการผ่าตัดมั่วๆ ของนาย