โฆษกก้าวไกล อัด ภราดรดราม่า อภิปรายงบฯแบบราชสีห์ แต่โหวตอย่างหนู

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2564 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากกรณีที่นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยอมรับอย่างเต็มภาคภูมิว่าตัวเองลงคะแนนแบบหนู ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณทั้งที่อภิปรายอย่างราชสีห์ และที่บอกว่าอยู่มา 3 สมัยวิจารณ์รัฐบาลตลอดเพื่อให้ปรับปรุงตัว แต่ 3 สมัยที่ได้เป็นรัฐบาล รวมกับ 7 ปีที่ประชาชนต้องเจอกับการจัดงบเช่นนี้ยังมองไม่เห็นความผิดปกติ ยังรับๆ ไปส่งเดชก่อนเพื่อให้การจัดงบแบบไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ต่อไป ถ้าแบบนี้ไม่ใช่เล่นละครก็เรียกว่าโหวตไร้หลักการ ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองเป็นรัฐบาลต่อไปใช่หรือไม่

ส่วนที่นายภราดรกล่าวถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า “ขออย่าดราม่า ตัวเองทำอะไรดีหมด คนอื่นทำบ้าง ก็บอกว่าคนอื่นชั่ว” ตนอยากถามกลับว่าใครกันแน่ที่ดราม่า ตอนอภิปรายก็บอกว่ารัฐบาลจัดงบมาแย่แบบนั้นแบบนี้ กรมนั้นกรมนี้ทำงานยาก ประชาชนจะลำบากกันไปทั้งประเทศ

ตอนอภิปรายก็เล่นใหญ่จะร้องไห้กันอยู่แล้ว แต่พอลงคะแนนกลับโหวตผ่านกันแบบพร้อมเพรียง และยังออกมาให้สัมภาษณ์อีกว่าทำงานยาก เพราะส.ส.ไม่สามารถแปรญัตติเพิ่มงบประมาณได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 144 กำหนดไว้ แต่ตอนให้โหวตว่ารับหรือไม่ ก็รับกันหมด แบบนี้ไม่เรียกว่าดราม่าจะเรียกว่าอะไร

ที่บอกว่า “ตัวเองทำอะไรดีหมด คนอื่นทำบ้าง ก็บอกว่าคนอื่นชั่ว” ตนขอยืนยันว่า เราพูดอะไรกับประชาชนไว้ ก็ทำไปแบบที่เราพูดมาโดยตลอด จะให้พูดอย่างแล้วทำอย่างแบบบางคนคงทำไม่ได้ ตนยืนยันว่าการโหวตคว่ำไม่นำไปสู่ความพินาศ แต่คือความหวัง เพราะหมายถึงความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารที่สมควรลาออกไปได้แล้ว

“ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ยินเสียงประชาชนทั่วสารทิศกันเลยหรือที่ว่าแค่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปเท่านั้น ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่สุดแล้วว่าประเทศนี้ยังมีความหวังจะดีขึ้นได้อย่างแน่นอน นายภราดร และพรรคร่วมรัฐบาลที่อภิปรายอย่างราชสีห์แต่โหวตอย่างหนู ต้องกลับไปคิดทบทวนตัวเองให้ดีว่า 3 ปีที่เป็นตัวแทนประชาชนมายังอยู่ในหลักการอย่างที่ปากว่าจริงหรือไม่”นายณัฐชา กล่าว