โคแวกซ์ : “ประยุทธ์” ชี้ไทยไม่เข้าร่วม อ้างค่าวัคซีนแพง-เลือกไม่ได้ “จิราพร” ย้อนเงินมัดจำเท่ากับสู้คดีเหมืองทองอัครา

วันที่ 3 มิถุนายน 2564 หนึ่งในวิวาทะเกี่ยวกับวัคซีนโควิดในไทยที่เกิดขึ้น ไม่เพียงประเด็นตัวเลือกวัคซีนที่ไม่หลากหลายแต่มุ่งม้าเต็งและนำเข้าวัคซีนคุณภาพต่ำมาให้ประชาชนฉีด หรือกำหนดการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อีกหนึ่งเรื่องที่เคยเป็นประเด็นคือ โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เปิดการระดมจัดหาวัคซีนและนำส่งไปให้ประเทศต่างๆที่เข้าร่วมโดยไม่กำหนดเรื่องระดับรายได้ว่ารวยหรือจน

อย่างไรก็ตามไทยที่ตอนแรกเข้าร่วมโครงการกลับถอนตัวกลางคันด้วยคำอธิบายที่ไม่สามารถทำให้สังคมกระจ่างได้ จนไม่นานมานี้ มีข่าวที่ไทยจะกลับเข้าร่วมโครงการอีกครั้งท่ามกลางเสียงกดดันจากประชาชนที่ต้องการให้นำเข้าวัคซีนคุณภาพสูงโดยเฉพาะวัคซีนจากเทคโนโลยี mRNA จากไฟเซอร์และโมเดอร์น่า

ประเด็น COVAX กลับมาอีกครั้ง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงในการอภิปรายร่างงบประมาณปี 2565 เมื่อเวลา 19.05 น.ของวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยตอนหนึ่งได้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ผิดพลาดในการบริหารวัคซีน พร้อมทั้งเปิดเผยถึงเหตุผลที่ไทยไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ COVAX โครงการกระจายวัคซีนโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก สำหรับประเทศยากจน

โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องสถานการณ์โควิด รัฐบาลได้เตรียมแผนงานหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดต่อการแก้ไขปัญหาและบริหารวัคซีน เพราะได้มีการเตรียมพร้อม ทั้งการลงทุนและการจ่ายค่ามัดจำ แต่เหตุผลที่รัฐบาลไทยไม่เข้าโครงการ COVAX เพราะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์รับวัคซีนฟรี หากไทยเข้าร่วมจะจ่ายค่าวัคซีนแพง และไม่สามารถเลือกยี่ห้อได้ รวมถึงต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ส่วนวัคซีนไฟเซอร์นั้นอยู่ระหว่างการประสานกับองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะจัดส่งในไตรมาสสาม และไตรมาสสี่ 20 ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วาระที่ 1 ว่า มีข่าวลือว่า การเจรจาลับกรณีเหมืองทองอัคราที่รัฐบาลพยายามปกปิดได้จบลงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข่าวลือนี้ดูแล้วเหมือนจะมีเค้าความจริง เนื่องจากในร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2565 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณเพื่อต่อสู้คดีเหมือนปีที่ผ่านๆ มา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าการเจรจาระหว่างบริษัทคิงส์เกตและประเทศไทยจะจบลงภายในปีงบประมาณ 2564

จากนั้น น.ส.จิราพร กล่าวต่อว่า ตอนที่พลเอกประยุทธ์ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อสู้คดีที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวเองสามารถเอาไปใช้โดยไม่ลังเล แต่พอเป็นเงินที่ต้องเอามาสู้โควิดให้ประชาชนกลับพยายามใช้อย่างประหยัด เมื่อครั้งที่ต้องจองวัคซีนผ่านโครงการ Covax ซึ่งใช้เงินมัดจำเพียงราว 800 ล้าน ถึงหลักพันล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินพอๆ กับที่รัฐบาลตั้งงบไว้สู้คดีเหมืองทองอัครา กลับลังเลไม่กล้าดำเนินการเพื่อประชาชน พลเอกประยุทธ์ได้ให้ค่าชีวิตคนไทยเกือบ 70 ล้านคน น้อยกว่าเงินที่ใช้ต่อสู้คดีเหมืองทองอัคราเพื่อตัวเองเพียงแค่คนเดียวเสียอีก