ศบค.เผยยอดโควิด 3,440 ราย คุมเข้ม รง.ขนาดใหญ่ ทำแบบประเมินตัวเอง 100% ภายใน 15 มิ.ย.

ศบค.เผยยอด ติดเชื้อโควิด-19 3,440 ราย คุมเข้มโรงงานขนาดใหญ่ ทำแบบประเมินตัวเอง 100% ภายใน 15 มิ.ย.นี้

วันที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,440 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,338 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,175 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,163 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 1,087 เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 15 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 165,462 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 2,843 ราย หายป่วยสะสม 114,578 ราย อยู่ระหว่างรักษา 49,777 ราย อาการหนัก 1,247 ราย ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ 381 ราย

ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 38 ราย เป็นชาย 24 ราย หญิง 14 ราย อยู่ใน กทม. 18 ราย สมุทรปราการ 4 ราย ชลบุรี ปทุมธานี จังหวัดละ 3 ราย ฉะเชิงเทรา นนทบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2 ราย พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด ราชบุรี อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุด 10 เดือน อายุมากสุด 95 ปี และมีถึง 8 ราย ที่เสียชีวิตในสัปดาห์แรกหลังจากทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,107 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 171,927,802 ราย เสียชีวิตสะสม 3,575,545 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 15 ราย ในจำนวนนี้มี 4 ราย เป็นชาวจีน 2 ราย และไทย 1 ราย มาจากเมียนมาลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ และอีก 1 ราย เป็นคนไทย มาจากกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ขณะที่ ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ลักลอบเข้าประเทศ 211 ราย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม. 680 ราย สมุทรปราการ 466 ราย เพชรบุรี 449 ราย ตรัง 176 ราย และสมุทรสาคร 78 ราย ส่วนภาพรวมการแพร่ระบาดในประเทศพบคลัสเตอร์ใหม่ อาทิ โรงงานน้ำแข็ง จ.สมุทรปราการ ส่วนพื้นที่ กทม. ขณะนี้มี 48 คลัสเตอร์ โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตลาดพร้าว มีผู้ติดเชื้อถึง 23 ราย ซึ่งทาง กทม.มีการปรับแผนจะลงตรวจหาเชิงรุกในพื้นที่ลาดพร้าวเพิ่มขึ้น

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการหยิบยกกรณีการติดเชื้อในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่ จ.สระบุรี มาหารือ เนื่องจากขณะนี้มีการกระจายเชื้อไปหลายจังหวัด โดยโรงงานดังกล่าวมีแรงจำนวนมาก เป็นคนไทย 4 พันกว่าคน ชาวต่างชาติพันกว่าคน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งการติดเชื้ออยู่ในหลายแผนกด้วยกัน กระจายติดไปทั้งโรงงาน กรมควบคุมโรควิเคราะห์ว่า พนักงานคนไทยจะอยู่บ้านพักส่วนตัวหรือหอพักโดยรอบโรงงาน ส่วนแรงงานต่างชาติจะอยู่หอพักที่โรงงานจัดให้ บางจุดค่อนข้างแออัด อยู่กันห้องหนึ่ง 3-6 คน ใช้พื้นที่กลาง ร่วมรับประทานอาหาร แต่พบว่าในส่วนของแรงงานฝีมือหรือช่างมีการติดเชื้อน้อยแม้จะอยู่ปะปนกับแรงงานอื่นๆ เพราะแรงงานกลุ่มนี้มีมาตรการส่วนตัวเข้มข้นและระมัดระวังตัวอย่างสูงสุด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ได้รายงานตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อในโรงงานต่างๆ ว่าในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมามีการติดเชื้อใน 10 จังหวัด ส่วนใหญ่จะติดในโรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานเกิน 200 คน เนื่องจากสถานที่แออัด ระบบระบายอากาศไม่ดี จุดสัมผัสไม่สะอาด มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าโรงงานที่มีขนาดใหญ่พบการติดเชื้อมากถึง 20% โรงงานขนาดเล็กติดเชื้อเพียง 5% ทั้งนี้ ตัวเลขโรงงานที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมไว้ 63,000 แห่ง โดยมีโรงงานที่มีผู้ติดเชื้อและเข้าสู่การประเมินตนเองในแบบประเมินตนเองด้านสาธารณสุข จำนวน 8,200 โรงงาน

แต่พบว่าโรงงานขนาดใหญ่ 3,300 โรงงาน เข้าไปประเมินเพียง 650 โรงงาน ทั้งที่เป็นเป้าหมายที่มีการติดเชื้อมากกว่าโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่มีการเฝ้าระวังตนเองค่อนข้างน้อยเพียง 20% จึงเน้นย้ำให้ภายในวันที่ 15 มิ.ย. โรงงานขนาดใหญ่ที่มีรายชื่ออยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมต้องเข้าไปประเมินตนเองให้ครบถ้วน 100% จะเลือกทำบางส่วนไม่ได้ และขอให้ตอบตามความเป็นจริง หากได้คะแนนน้อยหรือไม่ผ่านเกณฑ์จะมีทีมพี่เลี้ยงลงพื้นที่ไปช่วยปรับปรุงแก้ไขให้ผ่าน แต่หากขอความร่วมมือแล้วเพิกเฉย ไม่ประเมินตนเอง เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อและกระจายไปที่อื่น ตรงนี้จะมีการพิจารณาบทลงโทษ แต่หากโรงงานทำได้ดี จะมีการให้รางวัล ปรับให้เป็นสถานประกอบต้นแบบ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับกรณีแคมป์คนงานที่ประชุมศบค. ชุดเล็กได้หารือกันในวันเดียวกันนี้ ว่าจากการวางมาตรการการ ควบคุมการแพร่ระบาด ของแคมป์ที่พักคนงาน รวมถึงไซด์ก่อสร้าง ทางพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. ได้มอบให้กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ทบทวนรายละเอียดในแง่ของการจัดการ บับเบิลแอนด์ซีล การจัดการคอมมูนิตี้ไอโซเรชั่น

การพยายามที่จะทำให้การแพร่ระบาดมีวงจำกัดอยู่เฉพาะที่แคมป์คนงาน เพื่อให้สถานประกอบการ แคมป์คนงาน สามารถที่จะเกิดความเข้าใจในแง่ของรายละเอียดการปฏิบัติให้ตรงกัน แล้วจะได้ทำให้ถูกต้อง เนื่องจากขณะนี้หลายแคมป์คนงาน บอกว่าที่ทำอยู่นั้นเพียงพอแล้ว ถูกต้องแล้วจึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดติดเชื้อ ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะได้นำเสนอรายละเอียดข้อปฏิบัติยิบย่อยให้ แต่หากยังไม่ปฏิบัติตามผอ.ศบค.ชุดเล็ก เน้นย้ำว่า ขอความช่วยเหลือ ฝ่ายความมั่นคง ให้การสนับสนุนทาง กรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงที่ได้ขอความร่วมมือไปในวันนี้มีทั้งทหาร ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บ.ชน.) ศูนย์ปฏิบัติการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง(ศปม.) โดยจะต้องออกมาให้มีการกำชับเพื่อให้มาตรการที่ออกมาทำได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่าการแพร่ระบาดจะสามารถควบคุมได้ในที่สุด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สุดท้ายฝากไปที่ประชาชน มาตรการรัฐที่เข้มข้น ถ้าผู้ประกอบการ แคมป์คนงาน สถานประกอบการย่อหย่อนปฏิบัติไม่ได้ หมายความพี่น้องประชาชนจะไม่ได้รับความปลอดภัย ดังนั้นทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนจึงต้องช่วยเป็นหูเป็นตา ที่ผ่านมาศบค.ได้รับทราบเหตุการณ์ หรือการฝ่าฝืนมาตรการในตรงนี้นั้นตรงนี้ ก็เป็นเพราะพี่น้องประชาชนแจ้งเข้ามา และพี่น้องสื่อมวลชนช่วยกันเป็นกระบอกเสียง ก็ขอความร่วมมือจากทุกคน ให้ทำหน้าที่ต่อไป เราคงจะได้เห็นสถานการณ์ที่ดีขึ้น

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า วันนี้ขอฝากถึงพี่น้องสื่อมวลชน เพราะว่ามีถามคำถามเข้ามามากมาย ศบค.ก็อยากตอบทั้งหมด แต่อย่างที่ทราบ ว่าเรามีเวลาค่อนข้างจำกัด และหลายๆครั้งเราให้เกียรติผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ เช่น คำถามบางคำถาม ทางกระทรวงอุตสาหกรรม หรือกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ตอบ ผู้ให้ข้อมูลในรายละเอียด บางครั้ง ศบค.สรุป และนำเสนอในเวลาที่จำกัด อาจทำให้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และตีความคลาดเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตามพร้อมน้อมรับไว้ และต้องชื่นชมว่าสื่อมวลชนทำงานเพื่อช่วยชาติ และศบค. มากมาย อยากให้ยังคงเคียงข้าง เพราะต้องการให้เป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชน และการสื่อสารจากภาครัฐที่ครบถ้วน ถูกต้อง ก็ต้องฝากสื่อมวลชนช่วยกัน