‘โทนี่’ ลั่นขอเวลา 6 เดือนฟื้นประเทศ แนะเอางบฯทุ่มวัคซีนให้ปชช.เพื่อเปิดเศรษฐกิจ

ทักษิณ จัดคลับเฮาส์ 7 ปีหนี้รัดคอประชาชน ถาม โทนี่ มีทางออกไหม สอนรัฐบาลแก้หนี้ ให้หลุดวงจรอุบาทว์ ลั่น อย่าท้า ผมขอแค่ 6 เดือน ฟื้นประเทศได้แน่นอน

เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ ได้พูดคุย ใน หัวข้อ อยู่มา 7 ปี หนี้ท่วมประเทศ หนี้รัดคอประชาชน มาถามพี่โทนี่ดูว่ามีทางออกไหม ในคลับเฮาส์ และ เฟซบุ๊กของ CARE คิด เคลื่อน ไทย โดยใช้นามแฝงว่า Tony Woodsome ซึ่งมีการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง มีผู้รับชมในขณะถ่ายทอดสดหลายแสนครั้ง

อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เริ่มการพูดคุย ด้วยการกล่าวถึงประเด็นหนี้โดยว่า สมัยที่บริหารอยู่ ตอนเข้ารับตำแหน่งช่วงมกราคม 2544 หลังต้มยำกุ้ง เป็นหนี้ 54.05% ต่อจีดีพี อยู่ไป 5 ปี ก็ลดสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี คือ ใช้หนี้บ้าง เพิ่มฐานภาษี ก็ทำให้หนี้ต่อจีดีพีลดลง เหลือ 39.18% ตนเองลดหนี้ประเทศต่อไป 15% ของจีดีพี

แต่ปัจจุบัน คุณประยุทธ์อยู่มาจากตอนแรก 42.56% เป็น 58% และจะขึ้นเป็น 62% ไม่งั้นผิดกฎหมาย เพดานหนี้ เขาก็เตรียมแก้เพดานหนี้อีก อย่าไปเปรียบเทียบกับญี่ปุ่น อเมริกา เขามีฐานภาษีที่ใหญ่กว่า ฐานเขา 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่เรา 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น กำลังจะใช้คืนก็ลำบาก เรารายได้เล็ก ไปกู้เพิ่มเรื่อยๆ อันตราย

โดยว่า ตอนนี้ดอกเบี้ย 180,000 กว่า เงินต้น 5-6 หมื่นล้าน เราใช้เงินต้นน้อยมาก ดอกเบี้ยก็กองขึ้นเรื่อยๆ งบประมาณปีหน้า ต้องตั้งถึง 2 แสนล้านใช้ดอกอย่างเดียว แทนที่จะเอาไปบริหารประเทศ ต้นนี้ หลายปีจะทยอยใช้หมด เงินที่มีอยู่ในหน้าตัก ต้องมียุทธศาสตร์ในการใช้เงิน
กู้เท่าไหร่ก็พัง หากไม่จัดลำดับใช้เงิน

โทนี่กล่าวต่อว่า ตอนนี้เงินมี ทำไมไม่จัดลำดับความสำคัญ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแจกเงินไม่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตอนนี้ ต้องจัดการเรื่องโรคระบาดก่อน เพื่อเป็นเงื่อนไขในการเปิดเศรษฐกิจ และจะทำให้มีรายได้ จัดเก็บภาษีได้ ถ้ากู้มาเรื่อยๆ แบบนี้ กู้มาใช้แบบนี้ เท่าไหร่ก็หมด เท่าไหร่ก็พัง ต้องตัดรายจ่ายไม่จำเป็นออก ต้องเอาเร่งด่วนก่อน คือ 1.วัคซีน ให้ทั่วถึง 2.ค่าตรวจคัดกรอง ต้องทั่วถึง และ 3.การรักษา เตียงไม่พอ เครื่องช่วยหายใจ ก็ต้องลงทุนไป

“ตอนนี้ประชาชนมีหนี้ครัวเรือน 90 % ของจีดีพี เฉลี่ยหัวละ 128,000 แล้ว จาก 7 หมื่นตอนที่ผมอยู่ วันนี้คนที่เคยด่าผมหายไปไหนไม่รู้ สังเกตว่าหนี้ในวัยทำงาน มีจำนวนสูง หนี้เสียก็สูง เพราะตกงาน หนี้ทั้งครัวเรือน ภาคธุรกิจ และประเทศ สูงอยู่แถวนี้หมดแล้ว ถ้าไม่รีบแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้

“อย่าแก้หนี้ด้วยหนี้ จะทำให้ติดกับดักหนี้ ไม่มีทางหลุดพ้นวงจรอุบาทว์นี้ได้”

นายทักษิณกล่าวอีกด้วย สำคัญคือ ต้องแก้การระบาด และแก้เศรษฐกิจ หลังจากนั้นทุกคนจะมาใช้จ่าย กลับมาทำงาน หนี้ครัวเรือนก็ลด ร้านค้าก็เปิดและมีคนซื้อ นักท่องเที่ยวก็เข้ามา วันนี้ถ้ารัฐบาลไม่คิดเปิดเศรษฐกิจ และมาจัดการโรคระบาดแบบนี้ ก็ไปไม่รอด สุดท้าย ประชาชน บริษัท รัฐบาล ก็ต้องกู้หนี้เพิ่ม ตอนนี้ต้องเปิดเศรษฐกิจโดยด่วน วันก่อนเห็นข่าวเศร้าที่เชียงใหม่ เด็กขโมยมาม่าไปกิน เมื่อไหร่ ช่องทางที่ถูกกฎหมายมันปิด เขาก็จะไปสู่ช่องทางที่ผิดกฎหมาย วันนี้คนไปเดินยา ลักชิงปล้นมาก เพราะที่บ้านหิว เอาเงินไปแจกยังไงก็ไม่พอ จะแจกอย่างไรไหว

แนะงบปี 65 ต้องเร่งใช้กับวัคซีน

ช่วงตอนหนึ่ง ผู้ร่วมเสวนาคลับเฮาส์ ได้ถามคำถามทักษิณถึงการจัดการงบปี 2565 ว่าควรใช้กับเรื่องใด โดยโทนี่ระบุว่า จะใช้กับการแก้ปัญหาเรื่องวัคซีน จะรีบสั่งเข้ามา และไปทำระบบ รวมถึงเรื่องเตียงรักษาพยาบาลให้ดี และค่อยไปจัดการว่าจะเปิดเศรษฐกิจตรงไหน อย่างไร ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร

ทั้งยังได้ตอบคำถาม เรื่องการปรับลดงบทหารว่า ต้องคิดถึงภัยคุกคามแบบใหม่ เลือกซื้ออาวุธให้ถูกทาง อย่างเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ก็ได้ให้นโยบายไปว่า ให้ซื้อตามภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ ที่มีรูปแบบใหม่ๆ อย่าไปซื้อตามนายหน้าที่เข้ามาขาย อย่างวันนี้ โควิดก็เป็นภัยแบบใหม่ แค่เรื่องเดียวยังไม่ได้เตรียมตัวกันเลย ไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างฉับพลัน ทั้งๆที่เราพร้อมทุกอย่าง น่าจะจัดการได้เร็วกว่านี้ แสดงถึงการอ่อนข้อกับการเตรียมการล่วงหน้า ถ้าไม่คิดเรื่องนี้ ไปคิดถึงเรื่องเรือดำน้ำต่างๆ ก็ไม่ไหว และว่า “การบริหารจัดการเรามีปัญหามาก เงินก็มี แค่เอาไปใช้ให้ถูก”

ช่วงตอนหนึ่ง ยังได้แนะนำผู้ร่วมคลับเฮาส์ ถึงปัญหาและนโยบาย สำหรับชาวกรุงเทพฯ ว่า กทม. มีปัญหาอยู่ 3 เรื่อง คือ 1. ฝุ่น 2.รถติด และ 3.น้ำท่วม โดยว่า กทม.อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลนิดเดียว ทุกวันนี้ โลกร้อนทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นทุกวัน วันนี้หากไม่มีระบบป้องกันน้ำท่วมดีๆ ก็จะน้ำท่วมได้ และต้องจัดผังเมืองใหม่ เพื่อแก้ปัญหาจราจร

ถ้าเป็น “ทักษิณ ชินวัตร” ใช้เวลาแค่ 6 เดือน ฟื้นเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงตอนหนึ่ง ผู้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ ได้สอบถามทักษิณถึงบทความของสื่อต่างประเทศ เรื่องการฟื้นคืนเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยวว่าจะต้องใช้เวลา 5 ปี เป็นไปได้หรือไม่ โดยทักษิณกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าธุรกิจท่องเที่ยว ถ้าไทยไม่เปิดเขาก็ไม่รอ เขาก็ย้ายพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่อื่นที่เปิด กว่าจะกลับมาไทยอีกก็ใช้เวลา ไม่ใช่มันจะมาเลยทันที อย่างไทย 5 ปีอาจเป็นไปได้ แต่ไทยไม่น่านาน เพราะนิสัยคนไทย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมา คนไทยบริการดี ต้อนรับต่างชาติ แต่มันมีจุดอ่อนที่มันใช้เวลา ที่จะทำให้เขามั่นใจว่าเราพร้อม เรามีการควบคุมโรคได้ไหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้คลับเฮาส์รายหนึ่ง สอบถามความเห็นโทนี่ ว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม คุณโทนี่คิดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะฟื้นภายในกี่ปี นายทักษิณ กล่าวว่า ที่ถามว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้อย่างไรถ้าเปลี่ยนผู้บริหารประเทศ ผมคิดว่าอยู่ที่ความเข้าใจปัญหาเศรษฐกิจว่าเข้าใจแค่ไหน และจะทำแค่ไหน อันนี้พูดยาก ผมคิดว่าประมาณ 3 ปี เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นกลับคืนมา เมื่อถามว่า หากเป็นทักษิณทำเองจะใช้เวลาเท่าใด นายทักษิณ กล่าวว่า 6 เดือน ขอขิงหน่อย ไม่เชื่อก็อย่าท้า

ทั้งนี้ โทนี่ยังได้กล่าวถึงการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ ว่า ทุกองค์กร ความสำเร็จและล้มเหลวอยู่ที่ผู้นำ เวลาทำ พรรคเล็ก พรรคน้อย พรรคยิบย่อยผสมกันแบบนี้ ก็อาจไม่มีอำนาจตัดสินใจเดินหน้าซักเท่าไหร่ บ้านเราถึงเวลาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การศึกษาใหม่ การเงิน เพราะตอนนี้ล้าหลังทุกเรื่อง เรื่องการเงินอาจจะดีหน่อย แต่ต้องปรับให้ทุกระดับได้เข้าถึง ซื้อมาใช้ก็ต้องซื้อให้เป็น วันนี้เราล้าหลัง คนที่ทันสมัยก็มี พวกเจนแซด หลายคนหัวก้าวหน้า เจนวายก็ก้าวหน้า คงถึงเวลาให้คนรุ่นใหม่ช่วยคิดช่วยทำ รุ่นเก่าเป็นพี่เลี้ยง จากประสบการณ์ตัวเอง อย่าเผด็จการสั่งการ

“ถ้าการเมืองแบบนี้ ก็คงลำบาก เพราะการพัฒนาประเทศ ต้องอาศัยความต่อเนื่อง กติกา มันชัดเจนและปฏิบัติตามกติกาไม่มีปัญหา สมมุติบอก ประชาธิปไตย อีก 4 ปี เลือกตั้ง ห้ามปฏิวัติเด็ดขาด อีก 4 ปี ก็เลือกตั้งใหม่ นายกฯไม่เกิน 8 ปี ก็ว่าไป เราเปลี่ยน รธน.มากกว่า กฎหมายอื่นๆ ที่สำคัญกับชีวิต เปลี่ยนยากมาก รธน.เดี๋ยวฉีก เดี๋ยวฉีก ปัญหาคือกติกาถูกล้มบ่อยเกินไป”

เมื่อมีผู้เสวนาถามว่า มีหรือไม่ คนที่เก่งในรัฐบาลนี้ที่จะพาประเทศรอด โทนี่ตอบว่า คนนินทา นายกฯยังรู้เลย คนก็ไม่ค่อยกล้า นายกฯ อาจจะดุเกินไป เลยไม่ค่อยกล้าที่จะทำอะไร คนมีฝีมือก็มีทุกที่ ปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำ ต้องจูงใจให้คนทำงาน ไม่ใช่ข่มขู่ให้คนทำงาน โลกยุคใหม่ไม่ใชช้การข่มขู่ ต้องจูงใจ ให้กำลังใจ แต่ไม่อยู่ในขีดความสามารถที่จะพูดให้เขาฟัง

ช่วงท้าย ทักษิณ ชินวัตร ยังได้กล่าวถึงสตาร์ตอัพไทย ที่กลายเป็นยูนิคอร์นรายใหม่ของประเทศอย่าง Flash express โดยพูดถึงความพยายามของ คมสันต์ ลี ซีอีโอของแฟลช และว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่รู้ว่าพูดถึงจะทำให้เดือดร้อนหรือไม่

ก่อนจบรายการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังได้ร่วมเข้ามาทักทายในช่วงท้าย โดยกล่าวถึง ทุเรียนนนท์ที่เพิ่งได้ทาน และขอให้คนไทยรักษาตัว ทั้งยังการกรเซ๊าว่า หลังจากโพสต์เล่าลงไปในเฟซบุ๊ก คนไทยออกไปซื้อทุเรียนไปกินเยอะมาก พร้อมยังได้เชิญชวนฝากคำถามให้ถามถึงทักษิณในวัย 72 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของกลุ่มแคร์ ที่จะครบรอบวันเกิดในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทักษิณ ระบุว่า ไม่ต้องเกร็ง ถามมาได้หมดทุกคำถาม เพราะทักษิณอายุ 72 แต่พี่โทนี่ อายุ 27 ปี