วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ศูนย์ประสานงานโครงการช่วยเหลือคนตาบอดที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 บ้านเลขที่ 63/374 หมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ซ. 10/11 ม. 6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายพัฒน์ธนชัย สระกวี นายกสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย แถลงข่าวเรียกร้องถึงรัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือกับผู้พิการทางสายตาที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาตั้งแต่เกิด เนื่องจากผู้พิการทางสายตาที่ไม่มีบัตรประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาหรือตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิดที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง

นายพัฒน์ธนชัย กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสมาคมได้รับการขอความช่วยเหลือจากผู้พิการทางสายตาจำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาตั้งแต่เกิด หลังสงสัยว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด แต่เมื่อเดินทางไปขอตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลของรัฐกลับถูกปฏิเสธเนื่องจากไม่มีหมายเลข 13 หลัก ในฐานข้อมูลทะเบียนจึง ทำให้ผู้พิการทางสายตาทั้ง 2 รายนี้แจ้งขอความช่วยเหลือมาที่สมาคม

ทางสมาคมจึงช่วยเหลือนำส่งไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแทน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ต้องออกเอง รายละ 2,300 บาท ต่อมาพบว่า ผู้พิการทางสายตา 1 ใน 2 ราย ติดเชื้อโควิด 1 คน ทำให้ต้องรีบเข้ารับการรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษารออยู่และทางสมาคมจะต้องดำเนินการออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง

เนื่องจากผู้พิการทางสายตาที่ติดเชื้อคนนี้ ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีเลขประจำตัว 13 หลัก ทำให้ไม่มีโอกาสเข้าถึงสิทธิ์การรักษาตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่มีบัตรประชาชนจึงทำให้เข้าถึงสิทธิ์การรักษาฟรีไม่ได้

นายพัฒน์ธนชัย กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเมื่อผู้พิการทางสายตาซึ่งไม่มีบัตรประชาชนจะไปเข้าทำการรักษาหลังพบว่าติดเชื้อไวรัสก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนอยากจะรับตัวไว้รักษาเพราะทางโรงพยาบาลก็ไม่รู้ว่าเมื่อทำการรักษาให้ไปแล้ว จะไปเบิกค่ารักษาในส่วนนี้กับใครต่อ ทำให้ทางสมาคมต้องยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้พิการทางสายตารายนี้แทน

ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร และถ้าหากทางสมาคมไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ คนพิการทางสายตาเหล่านี้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารักษา เพราะมีแค่เงินที่ได้จากการร้องเพลงขอเงินไปวัน ๆ และทุกวันนี้ทางสมาคมยังต้องช่วยเหลือส่งอาหาร 3 มื้อ ให้กับผู้พิการทางสายตาบางส่วนที่ถูกกักตัวอยู่กับบ้านแต่ไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งด้วย

นายพัฒน์ธนชัย กล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มคนพิการทางสายตาจำนวนหนึ่งที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาตั้งแต่เกิด ซึ่งอาจเป็นเพราะพ่อแม่ของคนพิการที่อาจจะไม่มีความรู้เรื่องหนังสือ การเดินทางที่ยากลำบาก เมื่อเห็นลูกพิการก็ไม่ได้ไปแจ้งเกิดไว้ ดังนั้นคนพิการทางสายตากลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาได้จริงตามที่รัฐบาลประกาศไว้ เพราะหน่วยงานโรงพยาบาลของรัฐก็อ้างว่าไม่สามารถทำเรื่องเบิกค่ารักษาได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน ตนจึงอยากให้รัฐบาลหันมาดูแลให้ความช่วยเหลือผู้พิการทางสายตากลุ่มนี้ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม