“ไทยสร้างไทย” ชี้งบซื้ออาวุธไม่ได้ช่วยกระตุ้นลงทุนในประเทศ ย้ำยามวิกฤตต้องรู้อะไรเร่งด่วนจำเป็น

วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ดร. เกณิกา ตาปสนันทน์ คณะทำงาน พรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่องบประมาณจัดซื้ออาวุธของกองทัพว่า

งบซื้ออาวุธไม่ได้ก่อให้เกิดการลงทุนในประเทศ ไม่เกิดการหมุนของเงิน จ่ายเงินซื้อปุ๊บ เงินไหลเข้าต่างประเทศทันที

การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ นั้น เมื่อเราจ่ายเงินซื้ออาวุธเหล่านั้นไปแล้ว เงินก็ไหลสู่มือประเทศที่ขายอาวุธให้กับเราทันที ไม่ได้ก่อให้เกิดการลงทุน ไม่ได้ก่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศ ไม่ได้ก่อให้เกิดการหมุนของเงินในระบบอย่างที่ควรจะเป็น

ในห้วงภาวะวิกฤตเช่นนี้ การใช้งบประมาณของรัฐที่มาจากภาษีของเรา ควรใช้อย่างคุ้มค่า เกิดการหมุนรอบของเงิน หรือที่ภาษาเศรษฐศาสตร์เรียกว่า multiplier effect ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่การลงทุนของรัฐ 1 บาท จะสามารถหมุนรอบในระบบ ให้เกิดผลทวีคูณทางเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด

เช่น หากรัฐใช้งบประมาณจ้างงานในท้องถิ่น นายส้มที่ได้รับเงินจ้างงานนั้น ก็จะนำไปซื้อข้าวร้านยายแดง ยายแดงก็นำเงินนั้นไปซื้อวัตถุดิบจากร้านยายเขียว ยายเขียวก็เอาเงินนั้นไปซื้อของมาขายในร้านในวันถัดไป นี่คือตัวอย่างของการใช้งบประมาณแล้วเกิดการหมุนของเงิน

แต่หากเป็นการใช้เงินซื้ออาวุธ แน่นอนว่าจะไม่เกิดการหมุนของเงินในระบบเศรษฐกิจเลย หนำซ้ำเงินยังไหลออกนอกประเทศของเรา ไปยังประเทศผู้ขายอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้นให้เรา

เป็นการเพิ่ม GDP ให้แก่ประเทศที่เราซื้ออาวุธ และลด GDP ของประเทศเรา

ย้ำอีกครั้งว่าในยามวิกฤตเช่นนี้ รัฐต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณ ที่มาจากภาษีของเราทุกคนตามลำดับความสำคัญ อันไหนเร่งด่วน ต้องใช้ก็ใช้ อันไหนรอได้ก็ต้องรอไปก่อน ทุกบาทที่รัฐจ่ายไป ต้องมั่นใจว่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสูงสุด เพื่อให้ผลประโยชน์นั้นกระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากมหาวิกฤตในครั้งนี้

และเพื่อให้ #เราชนะ ไปด้วยกันจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ลมปากของผู้นำ