กลาโหม เผย 10เดือน จับกุมลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ได้กว่า 3.2 หมื่นคน ย้ำเข้มแนวชายแดน

กระทรวงกลาโหม เผยผลจับกุมลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในรอบ 10 เดือน ได้กว่า 3.2 หมื่นคน ย้ำมาตรการคุมเข้มตามแนวชายแดน

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 31 พ.ค. 2564 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังกันเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองทั้งพื้นที่ชายแดน และพื้นที่ชั้นใน สามารถจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 32,423 คน และทำลายเครือข่ายผู้นำพา 282 คน ( 1 ก.ค.63 – 30 พ.ค.64) พบชาวเมียนมาและกัมพูชาเข้าไทยเป็นจำนวนมาก

โดยผลการจับกุม พบชาวเมียนมา จำนวน 15,393 คน ชาวกัมพูชา 11,011 คน ชาวลาว 2,661 คน ชาวมาเลเซีย 92 คน รวมทั้งคนไทย 1,945 คน เฉพาะตั้งแต่ต้นปี 64 สามารถจับกุมได้ถึง 18,649 คน โดยมีเอเย่นต์รับความต้องการจากสถานประกอบการ ติดต่อผู้นำพาพาข้ามชายแดนเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ส่งต่อไปยังสถานประกอบการทางธุรกิจซึ่งยังมีความต้องการแรงงานราคาถูกโดยไม่ผ่านการคัดกรอง

เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ตรึงชายแดนเฝ้าระวังทั้งคนและโรค ในพื้นที่ชายแดน กองกำลังป้องกัน ชายแดน ทั้ง 8 กองกำลัง ได้จัดกำลัง 5 กองร้อย เพิ่มเติมในพื้นที่ชายแดนทาง เหนือและทางใต้ โดยจัดเป็นชุดลาดตระเวนขนาดเล็ก เพิ่มการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจ โดยเฉพาะช่องทาง-ท่าข้ามธรรมชาติ ร่วมกับ การวางเครื่องกีดขวาง และการใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการเฝ้าตรวจ เช่น กล้องตรวจการณ์เวลา กลางคืน และใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ในพื้นที่ที่ไม่ สามารถวางกำลังหรือเข้าถึง

นอกจากนี้ ยังร่วมกับการใช้ชุมชนเข้มแข็งชายแดนช่วยชี้เบาะแสและแจ้งข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมจัดกำลังอีก 3 กองร้อยออกปฏิบัติการ โดยพื้นที่ที่เป็นเส้นทางจากชายแดนเข้าสู่ตอนในได้สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองท้องที่ร่วมจัดตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด จัด ชุดสายตรวจตามเส้นทางต่างๆ

สำหรับพื้นที่ตอนในจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก ร่วมกับกำลังทหาร จัดตั้งจุด ตรวจ-จุดสกัดร่วม 1,686 จุด และจัดชุดลาด ตระเวน 1,815 ชุดลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ล่อแหลม ในการกวดขัน สืบสวน สอบสวน จับกุมกลุ่มผู้กระทำผิด ผู้ลักลอบเข้าเมืองและผู้นำพา โดยจะดำเนินการทางคดีและขบวนการทางกฎหมายอย่างเข้มข้นเด็ดขาด

ทั้งนี้ การดำเนินการกวดขันเฝ้า ระวังชายแดน ยังคงต้องคุมเข้มดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เพื่อคัดกรองควบคุมไม่ให้มีโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่เข้ามาสร้างปัญหาเพิ่ม