วันที่ 27 พ.ค.64 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า สหราชอาณาจักรได้รับการยื่นขอวีซ่าจากชาวฮ่องกงโพ้นทะเลเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวฮ่องกงที่ขอวีซ่าเข้ามายังสหราชอาณาจักรมากกว่าชาวสหภาพยุโรปที่ขอวีซ่าเข้ามายังสหราชอาณาจักรเป็นจำนวนหลายเท่าตัว หลังจากสหราชอาณาจักรได้เปิดโครงการสำหรับชาวฮ่องกงที่อยู่อาศัยในอดีตอาณานิคมของอังกฤษ รวมถึงยังมีกฎเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร

หน่วยงานสังเกตการณ์การย้ายถิ่นฐานของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ตั้งแต่มีการเปิดโครงการให้แก่ชาวอังกฤษโพ้นทะเล มีใบสมัครจากชาวฮ่องกงมากกว่า 34,000 คน ที่จะขอเข้าอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรในช่วงสามเดือนแรกของปีซึ่งเป็นจำนวนที่แตกต่างอย่างมาก หากเทียบกับคนในสหภาพยุโรปที่ยื่นขอวีซ่าทุกประเภทรวมกันแล้ว 5,354 คน

ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้ความดูแลของจีนในปี พ.ศ.2540 จีนได้ให้สัญญาว่าชาวฮ่องกงจะมีเสรีภาพอย่างที่ไม่มีในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรวมถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและระบบกฎหมายที่เป็นอิสระ

การหลั่งไหลเข้ามาของชาวฮ่องกง เกิดขึ้นหลังจากที่สหราชอาณาจักรประกาศโครงการใหม่ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 64 ซึ่งอนุญาตให้ชาวอังกฤษโพ้นทะเล สามารถยื่นขอวีซ่าและมีโอกาสเป็นพลเมืองอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่จีนมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง เมื่อเดือนมิถุนายน 2653 ซึ่งทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากที่เคยมีเสรีภาพที่กว้างขวาง ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้

รัฐบาลอังกฤษเล็งเห็นปัญหาจากการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง โครงการนี้จึงมีเป้าหมายที่จะเปิดให้ผู้ที่มีหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษโพ้นทะเล (BNO) ซึ่งเป็นสถานะพิเศษที่จะออกให้แก่ชาวฮ่องกงที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2531 ถึง 30 มิถุนายน พ.ศ.2540 สามารถสมัครได้

เมื่อวันพฤหัสบดี (27 พ.ค.64) ที่ผ่านมา นาย โดมินิก ราบ รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ได้พูดคุยกับ นาย หวัง อี้ รัฐมนตรีการต่างประเทศของจีน เพื่อแสดงความกังวลอย่างต่อเนื่องของสหราชอาณาจักรที่มีต่อฮ่องกง

หน่วยงานสังเกตการณ์การย้ายถิ่นฐานของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เผยข้อมูลว่า การขอวีซ่าจากสหภาพยุโรปในระดับต่ำนั้น สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และการล็อกดาวน์ รวมถึงระบบการอพยพที่มีข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ทำให้เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานถูกจำกัดลงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

“ในเวลาปกติ เราอาจมักจะได้รับข้อมูลว่านายจ้างในสหราชอาณาจักร พยายามเปิดรับสมัครคนในสหภาพยุโรป แต่ขณะนี้ตามกฎใหม่ชาวสหภาพยุโรปจะไม่สามารถเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้อย่างเสรีแบบเมื่อก่อนแล้ว” เมดาไลน์ ซัมพ์ชัน ผู้อำนวยการ หน่วยงานสังเกตการณ์การย้ายถิ่นฐานของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าว

“แต่การแพร่ระบาดทำให้นายจ้างจำนวนมากยังไม่จำเป็นต้องใช้ระบบตรวจคนเข้าเมืองแบบใหม่ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่เราจะได้ทราบว่ามีพลเมืองสหภาพยุโรปจำนวนเท่าใด ที่ย้ายมาอยู่ในสหราชอาณาจักรภายใต้กฎใหม่ ถึงตอนนั้นเราจะเห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ”

ทั้งนี้ พลเมืองสหภาพยุโรปที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรก่อนปี พ.ศ.2564 สามารถยื่นขอสถานะการตั้งถิ่นฐานได้ภายใต้โครงการที่แยกออกไปอีกโครงการหนึ่ง