กรมวิทย์ฯ โต้ไม่ควรเรียก โควิดสายพันธุ์ไทย โร่แจงที่มาเชื้อ อจ.แพทย์ชี้เดือดร้อนกับชื่อไปทำไม

จากกรณีที่ สำนักงานสาธารณสุขของอังกฤษ แถลงเมื่อ 27 พ.ค. ว่า พบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ชนิดใหม่ที่มาจากประเทศไทยในอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อให้ว่า VUI-21MAY-02 (C.36.3)หมายถึงสายพันธุ์ที่กำลังสอบสวน โดยสายพันธุ์ C.36.3 นี้ ถูกพบครั้งแรกในประเทศไทยในผู้เดินทางมาจากอียิปต์

วันที่ 28 พ.ค. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า สายพันธุ์ C.36.3 Variant ที่อังกฤษรายงาน ถูกระบุชื่อในตารางสายพันธุ์ไวรัส ว่า Thailand ex Egypt โดยหลักคือ หากต้นตอมาจากอียิปต์ไม่ควรเรียก สายพันธุ์ไทย ก็เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นพบสายพันธุ์บราซิล ตามการรายงานในตารางเขียนว่า Japan ex Brazil ก็เรียกว่าสายพันธุ์บราซิล เบื้องต้นก็ควรจะเรียกว่าสายพันธุ์อียิปต์

ตารางการติดตามสายพันธุ์ของประเทศอังกฤษ

“ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังตรวจสอบข้อมูลว่า สายพันธุ์ดังกล่าวเป็นการถอดรหัสพันธุกรรมมาจากห้องปฏิบัติการใด เบื้องต้นทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศอียิปต์ โดยเข้าสถานกักกันโรคในประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว”

เช่นเดียวกับ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า การรายงานลักษณะของเชื้อ เมื่อเจอที่ไหนก็เรียกชื่อตามที่เจอ ดังนั้น ที่เขียนว่า Thailand ex Egypt หมายถึงว่าเจอที่ประเทศไทย แต่ไม่ได้เจอในคนไทย แต่เป็นการเรียกตามชื่อแหล่งที่พบ ว่า เป็นที่ประเทศไทย แต่จริงๆ แล้วมาจากอียิปต์

อย่างไรก็ตาม  ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หน.ศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อโควิดสายพันธุ์ไทยและการถูกเรียกด้วยชื่อแบบนั้นว่า

สายพันธุ์ไทย … อะไรยังไง

เมื่อคืนมีรายงานข้อมูลการติดตามสายพันธุ์ COVID-19 ของ Public Health England เผยแพร่ออกมา ซึ่งเป็นรายงานประจำอยู่แล้ว แต่มีข่าวที่หลายคนสนใจ คือมีข้อมูลสายพันธุ์ที่พบใหม่ (variant under investigation) ใน UK ที่ชื่อ C.36.3 พบผู้ติดเชื้อใน UK แล้ว 109 ราย และมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ใน 34 ประเทศทั่วโลก

หลายสื่อในอังกฤษใช้ nickname ว่า Thai variant หรือสายพันธุ์ไทย ด้วยเหตุผลคือ สายพันธุ์นี้ถูกรายงานเป็นครั้งแรกจากเมืองไทย ในผู้ที่เดินทางมาจาก Egypt และน่าจะตรวจพบว่าติดเชื้อ ถูกกักตัวอยู่ใน State Quarantine 1 ราย มีความเป็นไปได้ที่เชื้อนี้น่าจะเกิดขึ้นใน Egypt หรือประเทศแถบนั้น แล้วผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าประเทศไทย และถูกดักจับได้ตามช่องทางปกติ

ไม่ได้แปลว่าสายพันธุ์นี้ระบาดในเมืองไทยโดยที่เราไม่รู้ หรือว่าพบว่าติดเชื้อในประเทศเหมือนสายพันธุ์อื่น ๆ ที่เรารู้จักดีไม่ว่าจะเป็น UK variant, Indian variant หรือ Brazil variant (ซึ่งเป็นตัวอย่างด้านไม่ดีของการใช้ชื่อประเทศหรือสถานที่มาเป็นชื่อสายพันธุ์ เพราะทำให้คนเข้าใจผิด แต่เป็นที่นิยมกันทั่วไป)

ลักษณะที่น่าสนใจของ C.36.3 คือมีตำแหน่งการกลายพันธุ์บน spike ที่สำคัญคือ L452R ซึ่งพบในสายพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ เช่น California variant (B.1.427, B.1.429) หรือ Indian variant (B.1.617.1 และ B.1.617.2) ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า L452R นี้น่าจะมีผลให้การแพร่เชื้อเกิดง่ายขึ้น (increased transmissibility) และอาจดื้อต่อ antibody บ้าง แต่ไม่มากเท่า E484K ที่พบใน B.1.351 (South African variant) ส่วนตำแหน่งการกลายพันธุ์อื่นยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ามีผลอะไรหรือไม่

ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดีครับ แต่ถ้ายังไม่มีการระบาดในประเทศไทยก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ อย่างไรก็ดีควรต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป

อ่านงานสอบสวนได้ที่ SARS-CoV-2 variants of concern and variants under investigation in England

ทั้งนี้ ศ.นพ.มานพกล่าวเพิ่มเติมว่า หลายคนเดือดร้อนกับการใช้ชื่อสายพันธุ์ไทย ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่เรายังใช้ชื่อยึดโยงสถานที่ ที่ผ่านมาเราคุ้นเคยกับสายพันธุ์อู่ฮั่น, อังกฤษ, บราซิล, แอฟริกาใต้ รู้สึกเฉย ๆ เพราะไม่ใช่ประเทศเรา พอเจอชื่อสายพันธุ์ไทยก็รู้สึกเดือดร้อน

ถ้าเราไม่ stigmatize (ตีตรา) กันด้วยชื่อ ก็ไม่มีประเด็นอะไรหรอก เอาใจเขามาใส่ใจเราครับ