‘หมอเรวัต’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ สะสมความล้มเหลว บริหารโควิด-วัคซีนพลาด รัฐบาลจ่อพังเพราะเชื้อโรค

‘หมอเรวัต’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ สะสมความล้มเหลว บริหารโควิด-วัคซีนพลาด รัฐบาลจ่อพังเพราะเชื้อโรค

วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีรัฐบาลใกล้พัง หลังสะสมความล้มเหลว บริหารผิดพลาด โดยเฉพาะกรณีของโควิด-19 และการจัดการวัคซีน

โดย นพ.เรวัตระบุว่า เหตุผลที่รัฐบาลจะพังนั้น เป็นเพราะรัฐบาลได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดล้มเหลวมาโดยตลอดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เดือนมกราคม 2563 เป็นความผิดพลาดที่สะสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่รอบแรก ที่ปล่อยให้เชื้อเข้ามาระบาดทำให้คนไทยติดเป็นจำนวนมาก ทั้งที่จริงแล้วต้องมีการคุมเข้มไม่ให้มีชาวต่างชาติจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนำเชื้อเข้ามา

นพ.เรวัตกล่าวอีกว่า ขณะที่รอบ 2 นั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเมียนมากำลังมีการระบาด แต่ก็ยังปล่อยให้มีการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายเข้ามา เลยเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่สมุทรสาคร แล้วยังละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันที่ระยอง จึงเกิดเป็น 2 ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ใหญ่ๆ ทำให้มีการระบาดในรอบ 2 ทั้งๆ ที่ผมก็เคยเตือนแล้วว่าขอให้ระมัดระวังการระบาดในเมียนมาเป็นแสนๆ รอบ 3 ก็ปล่อยให้มีการมั่วสุมกันที่คลัสเตอร์คริสตัลทองหล่อจนเป็นเหตุให้มีการระบาดใหญ่ในรอบที่ 3

“ทั้งหมดนี้เป็นความหละหลวมความบกพร่องของฝ่ายมั่นคงของรัฐบาลที่ปล่อยให้มีการระบาดทั้ง 3 รอบ” นพ.เรวัตระบุ

นพ.เรวัตกล่าวอีกว่า นับเป็นการสะสมความผิดพลาดล้มเหลวมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีปัญหาเรื่องวัคซีน ปรากฏว่าประชาชนได้รับวัคซีนล่าช้า จำนวนก็ไม่มากพอ และชนิดของวัคซีนก็ไม่มากพอที่จะให้ประชาชนเลือก เป็นการสะสมที่อึดอัด คับข้องใจมาโดยตลอด ถ้าไปดูความรู้สึกประชาชนขณะนี้ จะเห็นได้ว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ของประชาชน ไม่พอใจ อึดอัด กับการบริหารจัดการเฝ้าระวังโรคระบาดมาจนถึงเรื่องวัคซีน จัดซื้อจัดหาล่าช้าจนเกิดการระบาดใหญ่ มีการระบาดทุกสายพันธุ์ ทั้งอู่ฮั่น เมียนมา อังกฤษ กระทั่งสายพันธุ์อินเดีย ที่มีการตรวจพบในแคมป์คนงานหลักสี่ และพบการระบาดมากขึ้น

นอกจากนี้ นพ.เรวัตเผยรู้สึกเป็นกังวลมากๆ จากการพบข่าวระบาดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่ตากใบ จ.นราธิวาส เลยอยากเตือนว่ารัฐบาลพลาดมาแล้ว 3 รอบที่ปล่อยให้เชื้อหลุดลอดมาระบาดมากขึ้นในไทย รอบนี้ถ้ามีสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ขอเตือนว่าอย่าให้หลุดมาถึง กทม. เรื่องใหญ่มากๆ เพราะวัคซีน 2 ชนิดที่เรามีทั้งโคแวกซ์ และแอสตร้าเซนเนก้า ประสิทธิภาพเอาสายพันธุ์แอฟริกาใต้ไม่อยู่ เพราะสายพันธุ์นี้ดุร้ายมาก ถ้าหลุดลอดมาถึง จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และประชาชนจะระเบิดความโกรธแค้นต่อรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนอยู่ไม่ได้

นพ.เรวัตกล่าวว่า ที่สำคัญตอนนี้มีข่าวเรื่องของการได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล่าช้า ฉีดเข็มแรกไปแล้ว ส่วนเข็ม 2 ก็จะยืดเวลาไป หากถึงเวลานัดแล้วไม่ได้ฉีดอีก ประชาชนก็จะไม่พอใจอย่างมาก เป็นการสะสมความผิดพลาดหลายๆอย่างของรัฐบาล เพราะประชาชนอดทนมานานแล้ว ทั้งการระบาด การล็อกดาวน์ กระทบธุรกิจการค้า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เจ๊ง ความอดกลั้นของประชาชนอาจมาถึงขีดจำกัด

“ม็อบต่างๆ อาจไม่สามารถล้มรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่เชื้อโรคตัวเล็กๆ นี่แหละ อาจจะล้มรัฐบาลนี้ได้” นพ.เรวัตกล่าว

นอกจากนี้ นพ.เรวัตยังระบุอีกว่า ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่รวมอำนาจ ใช้ ศบค. และ 31 พ.ร.บ. เป็นตัวบริหารจัดการ แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มนั้น เรื่องนี้เป็นการตอกย้ำว่า เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล การเป็นทหารไม่สามารถจะมารบกับเชื้อโรคได้ อีกทั้งยังเชื่อว่ามีความขัดแย้งกันในการบริหารภายใน รวมถึงปัญหาโครงสร้างการบริหารจัดการ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น เพราะการระบาดเป็นเรื่องร้ายแรงเกี่ยวกับชีวิตประชาชน ฉะนั้น ฝ่ายบริหารควรจะร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ช่วยบริหารจัดการ จัดหาวัคซีน เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย

ส่วนประเด็นกระแสเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออกนั้น นายแพทย์เรวัตระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้มีหัวใจหรือตั้งใจในการทำงาน เห็นได้จากการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ ไม่มีการใส่ใจในคำพูด จึงถามว่า คนเช่นนี้จะบริหารบ้านเมืองในยามวิกฤตได้อย่างไร

และในเวลาเช่นนี้ ประชาชนต้องการความมั่นใจแต่รัฐบาลกลับทำให้ไม่ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลายๆ อย่างกลับไม่เป็นไปตามสัญญา ถึงได้ฟันธงว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับวิกฤตโควิดอีกรอบนั้น เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ไม่ได้