วันที่ 26 พ.ค. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ภัยพิบัติใน ประเทศอินเดีย หลังจากพายุ “ไซโคลนยาอาส” ที่ความเร็วลมสูงสุด 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวมุ่งหน้าชายฝั่งภาคตะวันออก ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 1.2 ล้านคนต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว

ไซโคลนยาอาสเป็นพายุลูกที่สองที่พัดถล่มอินเดียในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ ภายหลังพายุไซโคลนเตาะแต่ที่ความเร็วลมมากถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถล่มชายฝั่งภาคตะวันตก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 169 ราย และมากกว่า 80 คนบาดเจ็บ

ถือเป็นภัยธรรมชาติซ้ำเติมวิกฤตโควิด-19 ระลอกสองของประเทศ กับยอดป่วยสะสมทะลุ 27.1 ล้านคน และเสียชีวิตแล้ว 311,421 ราย

สํานักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดียประกาศเตือนภัยไซโคลนยาอาส และว่าอิทธิพลของพายุจะก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง คลื่นทะเลสูง และหลายพื้นที่เสี่ยงเผชิญน้ำท่วมสูงในระดับมิดหลังคาบ้าน

“เราประสบภัยพายุฝนกระหน่ำและลมแรงตั้งแต่เมื่อค่ำวาน ต้นไม้ล้มระเนระนาดเป็นบริเวณกว้าง และสายไฟหลายแห่งขาดวิ่น” ชาวบ้านในเมืองบาลาซอร์ รัฐโอริศา เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่น

ด้าน นายนาวีน พัตไนก์ มุขมนตรีรัฐโอริศา แถลงเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและอพยพจากชายฝั่งซึ่งเสี่ยงน้ำท่วมรุนแรง ส่วนทางการเมืองโกลกาตา รัฐเบงกอลตะวันตก สั่งปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเมืองโกลกาตาเป็นการชั่วคราว