เผยแพร่ |
---|
วันที่ 23 พฤษภาคม 2564 ธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นท่ามกลางกระแสความเห็นบนโลกโซเชียลในวาระครบรอบ 7 ปี รัฐประหาร 2557 ว่่า
ถ้ายึดหลัก ‘ความถูกต้อง’ ก็ไม่ต้องรู้สึกผิด
แม้ผมจะไม่โอเคกับการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่ผมก็ไม่โอเคที่เห็นบรรดานักการเมืองอีกฝั่งพากันออกมาตีกิน ราวกลับว่าจำสาเหตุแห่งการรัฐประหารไม่ได้เช่นกัน ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียดที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น เพราะคงรับรู้รับทราบกันเป็นอย่างดีแล้ว
สำหรับภาคประชาชนอย่างเราๆ การแสดงความคิดเห็นในทางการเมืองนั้นแตกต่างจากการเสพข่าวบันเทิงหรือกีฬา ที่มักอาศัยความชื่นชอบเป็นพื้นฐาน แต่ต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงและความถูกต้องตามแต่ละเหตุการณ์ จะเอาอารมณ์ความรู้สึกมาใช้การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
..เช่นตอนนี้ มีการพยายามสร้างวาทกรรม โดยการตั้งคำถามถึงคนที่เคยออกไปร่วมม็อบไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ว่า ‘สำนึกผิด’ หรือยัง?
ถ้าถามผม ในฐานะเป็นคนหนึ่งที่ได้ไปร่วมม็อบ ขอบอกเลยว่าไม่เคยรู้สึกผิด เพราะตอนนั้นการเมืองมันเลวร้ายถึงขีดสุด จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพยายามรักษาไว้ซึ่งความถูกต้อง และความสงบเรียบร้อยของสังคม
โดยต้องยอมรับว่าในช่วงปีแรกๆของรัฐบาลคสช.นั้น เขาสามารถทำได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว สามารถแก้ปัญหาและความขัดแย้งไปได้มาก ถ้าเทียบกับยุครัฐบาลก่อนหน้านั้น
แต่พอมาถึงวันนี้ แม้คสช.จะกลายเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว การบริหารในหลายมิติกลับแย่ลง มีการประพฤติปฏิบัติหลายอย่างไม่ต่างกับรัฐบาลที่เคยถูกยึดอำนาจ อันนี้ต้องพูดกันตามความจริง และโดยส่วนตัวยอมรับว่าผิดหวัง
หากประชาชน(ไม่ว่าจะเชียร์ใคร/ฝ่ายไหน)ยึดเอาความจริงและความถูกต้องมาเป็นตัวกำหนดการแสดงออก แทนอารมณ์อคติส่วนตัว ชาติก็จะเดินหน้าไปได้เสมอ ไม่ใช่พอใครพูดผิดหู หรือกระทบนักการเมืองที่ตนชื่นชอบก็ไปต่อว่าเขา วนเวียนเป็นงูกินหาง ด่ากันไปมาไม่มีจบสิ้น
และการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองด้วยความสุจริตใจนั้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่ความนิ่งเฉยต่อสิ่งเลวร้ายต่างหาก ที่ทำให้บรรดานักการเมืองได้ใจ เดินหน้ากอบโกยบนซากปรักหักพังของประเทศชาติ
ดังนั้น เราทุกคนสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ หากหัวใจมันบอกว่าถูกต้อง ก็จงเชื่อมั่นและยืดหยัด ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน หรือชอบนักการเมืองฝ่ายเดียวกัน แต่จำเป็นที่จะต้องยึดหลัก ‘ความถูกต้อง’ เอาไว้เสมอ ..เพื่อไม่ให้กลายเป็นสังคมที่ล้มเหลวทางความคิด