ณัฐวุฒิ ลั่น! สายพันธุ์อินเดียมาแล้ว แต่สายพันธุ์อีเดียดยังไม่ไป อยู่มา 7 ปี ทำพังหมด

‘เต้น’ เหน็บ สายพันธุ์อินเดียมาแล้ว สายพันธุ์อีเดียดยังไม่ไป อยู่มา 7 ปี ทำพังหมด

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ แสดงความเห็นทางการเมือง ระบุว่า

“สายพันธุ์อินเดียมาแล้ว สายพันธุ์อีเดียดก็ยังไม่ไป อยู่มา 7 ปีพังทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ไร้ศักยภาพในการแก้ปัญหา กลไกตรวจสอบเป็นอัมพาต รักษาอำนาจบนความพินาศของประชาชน”

ทั้งนี้ วันนี้เป็นวันที่ 22 พ.ค. ครบรอบการยึดอำนาจเมื่อ วันที่ 22 พ.ค. 2557 โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ แสดงความเห็นเรื่องวัคซีนที่ดี คือวัคซีนที่ดีตามคุณภาพและสรรพคุณ ไม่ใช่ดีตามมีตามเกิดที่รัฐบาลหาให้ พร้อมระบุว่า ถ้ารัฐบาลชัดเจนเรื่องวัคซีนตั้งแต่แรกก็จบ แต่ที่ผ่านมามาตรการต่างๆ ไม่ชัดเจน เข้าๆ ออกๆ ขาดวิสัยทัศน์

“วัคซีนที่ดีที่สุด? วัคซีนต้องดีตามคุณภาพและสรรพคุณ ไม่ใช่ดีตามมีตามเกิดที่รัฐบาลหาให้ ใครฉีดเห็นด้วย ยังไม่ฉีดก็มีสิทธิเลือก แต่ต้องระวังไม่ให้เสี่ยงรับ หรือแพร่เชื้อ ถ้ารัฐบาลชัดเจนตรงไปตรงมาก็จบ นี่ชักเข้าชักออก รวบอำนาจ ขาดวิสัยทัศน์ ขัดขวางเอกชน สับสนทุกมาตรการ #วัคซีนโควิด” นายณัฐวุฒิระบุ

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังเคยเขียนเตือนเรื่องการจะระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ในเรือนจำ รวมถึงวิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาการบริหารจัดการโควิด และการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลไทย โดยระบุว่า

“เมียนมาฆ่ากันกลางถนนร่วม 3 เดือนแล้ว สัดส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็น 1% ของประชากร อันดับ 8 ของอาเซียน ไทยฉีดไป 1.1% อยู่ที่ 7 “เล่าให้กองเชียร์ประยุทธ์ฟังเฉยๆ”

“ประยุทธ์พูดคนไม่เชื่อแล้ว คนตายคนเจ๊งรอวัคซีนเพิ่มขึ้นทุกวัน ขอเรียกร้องให้ผู้บริหาร หรือคนทำงานของสยามไบโอไซเอนซ์ ผู้ผลิตวัคซีนทางรอดเดียวของคนไทย แถลงความพร้อมอธิบายกระบวนการทำงานตามแผนรัฐบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นโดยด่วน”

“อย่าโยงการเมือง บริษัทไหนทำผมก็จะเรียกร้องแบบนี้” นายณัฐวุฒิระบุ