ณัฐชา แนะพรรคร่วมเลิกเดินตาม ‘ตัวถ่วงประเทศ’ คิดถึงศักดิ์ศรีอย่ารอกินน้ำใต้ศอก

[ ไม่ให้วอร์คอินก็วอร์คเอาท์ ‘ณัฐชา’ แนะพรรคร่วมเลิกเดินตาม ‘ตัวถ่วงประเทศ’ คิดถึงศักดิ์ศรีนักการเมือง อย่ารอกินน้ำใต้ศอกใคร ]

20 พ.ค. 64 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาค้านการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขที่ต้องการให้ประชาชนสามารถวอร์คอินเขารับการฉีดวัคซีนได้ในเดือนมิถุนายน 2564 ว่า เหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความกลับไปกลับมาของรัฐบาลที่ทำให้พี่น้องประชาชนสับสนครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งปัญหามาจากความพยายามรวบอำนาจไว้ที่ตนเองของ พลเอกประยุทธ์ แต่ไม่เคยมีความเข้าใจถึงความจำเป็นเร่งด่วนทางสาธารณสุข เพราะมัวแต่สนใจแต่หน้าตาของตนเอง เช่น การเปิดทางให้เอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกแต่อยู่ดีๆก็เปลี่ยนแนว จนกลายเป็นประเด็นในโซเชียลว่าเพราะท่านกลัวเอกชนทำดีกว่าแล้วจะเสียหน้า หรือกรณีมาตรการกักตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) ที่ไม่เกิดขึ้น ทั้งที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระทางสาธารณสุขและทำให้สามารถคัดแยกผู้ป่วยหนักมาทำการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสและจำนวนการรอดชีวิตได้ ท่านก็อ้างเรื่องวินัยคนไทยจนกำลังจะเกิดวิกฤติในคนไข้ไอซียู
.
ล่าสุด ยังมาเบรกเรื่องการวอร์คอินเพื่อเข้ารับวัคซีน ทั้งที่ขณะนี้มีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด และประชาชนตั้งตารอ แต่ก็กลับมาคัดค้านแค่เพราะกลัวว่าจะโดนด่าถ้าคนไปรับวัคซีนแล้วไม่ได้ฉีด ซึ่งปัญหานั้นเป็นปัญหาของรัฐบาลที่มีหน้าต้องหามาเพิ่มให้พอ อย่างวันนี้ที่มีข่าวว่าทางฟิลิปปินส์จัดหาวัคซีนไฟเซอร์มาได้อีก 40 ล้านโดส ทำไมเขาทำได้ ตนมองว่า ถ้ามีความตั้งใจประชาชนก็จะรับรู้ได้ แต่ไม่ใช่ไม่ทำเพียงเพราะแค่กลัวโดนด่าเท่านั้น
.
“การให้ข้อมูลกลับไปกับมาของรัฐบาลเกิดขึ้นหลายครั้ง ผลสืบเนื่องก็คือทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจในการบริหารจัดการปัญหาของรัฐบาลอย่างรุนแรง เรื่องนี้เป็นนัยยะที่สะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพระหว่างพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นแกนหลักของรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งสองพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคภูมิใจไทยที่ต้องทำงานแบบโดนข้ามหัวมาตลอด ในด้านเกษตร เจ้ากระทรวงคนคิดว่าเป็นคุณธรรมนัส ไปแล้ว แถมยังจะส่งไปดูแลพื้นที่ภาคใต้อีก ส่วนด้านสาธารณสุข เวลามีปัญหาก็ผลักให้คุณอนุทินออกหน้าในฐานะเจ้ากระทรวง แต่ก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า อำนาจเต็มอยู่ที่ ศบค. โดยมี พลเอกประยุทธ์ เป็นประธาน แถมล่าสุดยังรวบอำนาจผ่าน พ.ร.บ.อีกกว่าสามสิบฉบับเข้าตัวเอง
.
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนต้องการเห็นเอกภาพในการวางแผนร่วมกันเพื่อพาประชาชนข้ามผ่านความเลวร้ายไปให้ได้ ผมคิดว่า การที่ให้วอร์คอินไม่ได้ ทั้งที่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทุกองคาพยพของรัฐบาลเข้าไปสนับสนุนทำให้เป็นจริง ก็คงยากแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลจะทำผลงานตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วลองมองย้อนกลับไปในหลายเรื่องโดนกระทำมา ผมแนะนำให้ทั้งสองพรรควอร์คเอาท์ออกมาดีกว่า ไม่ควรไปเดินตามตัวถ่วงประเทศเพื่อลดความน่าเชื่อถือของตัวเองลงไปทุกวัน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องวัคซีนเท่านั้น แต่เห็นอยู่ว่าเขาพร้อมจะอุ้มคนแบบไหน คนที่เขาอุ้มคือคนแบบคุณสิระ คนแบบคุณธรรมนัส ไม่ใช่คนแบบคุณภราดร ปริศนานันทกุล คนแบบคุณ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หลายนโยบายที่สะท้อนมาจากคนสาธารณสุขเองแท้ๆแต่ทำไม่ได้ พูดไปก็โดนหักมาตลอด แต่เวลามีปัญหาโยนผิดให้มาตามล้างตามเช็ด อยากถามว่าตอนนี้ศักดิ์ศรีนักการเมืองยังเหลือกันอยู่หรือไม่ จะอุ้มเขาต่อหรือจะเป็นตัวของตัวเอง ต้องตัดสินใจได้แล้ว อย่าไปรอกินน้ำใต้ศอกใคร อย่างน้อยประชาชนที่เลือกท่านมาคงคาดหวังจะเห็นความเด็ดเดี่ยวและสง่างามในตัวของผู้แทนของเขา” นายณัฐชา กล่าว