เพื่อไทย จี้ พล.อ.ประยุทธ์ แจงไทม์ไลน์ ปูพรมฉีดวัคซีนแบบวอล์คอิน ให้ละเอียด

15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี รัฐบาลพยายามจัดโปรแกรมฉีดวัคซีนแบบปูพรมบรรดากลุ่มเสี่ยง ไฟเขียวให้แต่ละจังหวัดบริหารจัดการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินทั่วประเทศ ว่า ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายออกมาเตือนแล้วว่า ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด ฉีดให้ได้มากที่สุด แต่รัฐบาลก็ไม่ได้เร่งฉีด ครั้นจวนตัวถูกกดดันด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูง จึงเพิ่งมาเริ่มดำเนินการ ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ในขณะที่เครดิตความเชื่อมั่นของรัฐบาลแทบไม่เหลือ การสื่อสารมีปัญหา ประชาชนตื่นตระหนก หวาดผวาผลข้างเคียง จนเกิดคำถาม ระหว่างกลัวติดโควิดกับกลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน อย่างไหนน่ากลัวมากกว่ากัน การฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินตามสถานที่ต่างๆ ที่แม้แต่รัฐบาลยังออกมายอมรับว่าเกิดความเข้าใจผิดและสับสนกันมาก แม้จะแก้เกี้ยวว่าการการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน จะเริ่มในเดือนมิ.ย.เพราะจะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้ แต่รัฐบาลก็ควรมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน แบ่งสัดส่วนการให้บริการกับผู้ลงทะเบียนแอพหมอพร้อม กลุ่มที่นัดเป็นกลุ่มก้อน เช่น อสม. หรือองค์กรภาครัฐและเอกชนรวบรวม และวอล์กอินจากประชาชนทั่วไปอย่างไร ต้องระบุให้ชัด รัฐบาลเก่งขนาดเขียนยุทธศาสตร์ชาติล่วงหน้า 20 ปีได้ การฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่จะเริ่มในเดือน มิ.ย.ต้องมีไทม์ไลน์และแผนงานที่ชัดเจน มีวัคซีนในมืออย่างไร วัคซีนใดขึ้นทะเบียนแล้ว วัคซีนใดอยู่ระหว่างการดำเนินการ มีความครอบคลุมหลากหลาย เพียงพอกับประชาชน หรือไม่

“อย่าให้ประชาชนมองว่า การปูพรมฉีดแบบวอล์คอิน เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ รัฐบาลอย่าถนัดแต่พูดเอาหน้าแล้วให้เจ้าหน้าที่ตามไปแก้ปัญหาไปเป็นวันๆเอาเอง ต้องมีไทม์ไลน์การฉีดและแผนงานที่ชัดเจนโปร่งใสตรวจสอบได้”นายอนุสรณ์ กล่าว

อนุสรณ์ ชี้ ฝ่ายค้าน พร้อมเดินหน้าเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล้มเหลว ว่า ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 หลังจากนี้ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านจากทุกพรรคจะได้ร่วมหารือกันถึงการเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายปมการแก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาล ทั้งมาตรา 152 ขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ และ อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ประเด็นการปล่อยปล่อยแก๊งกักตุนแมสก์ลอยนวล การไม่ลงโทษ 2 รมต.ทำเชื้อโควิด-19 ระบาด สาเหตุที่โครงการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไม่คืบหน้าเพราะเหตุใด ติดขัดตรงไหนเกี่ยวกับการณีการไปติดช่องต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ต้องคิดค่าบริหารจัดการ 5-10% บวก VAT อีก 7% จริงหรือไม่ การขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทย ที่วันนี้ยังมีแค่ 4 ยี่ห้อ แอสตราเซเนกา-ซิโนแวค-จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และโมเดอร์นา ที่อย.เพิ่งขึ้นทะเบียน วัคซีนไฟเซอร์-สปุตนิก ที่รัฐบาลไปขอซื้อมากู้หน้าแก้วิกฤติดำเนินการถึงขั้นตอนใด

“พรรคร่วมรัฐบาลยังออกปากยอมรับว่า แก้วิกฤติโควิดล้มเหลว หากมีพฤติการณ์ส่อทุจริต ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รู้เห็นเจ้าหน้าที่ แสวงหาประโยชน์มิชอบ ขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ปิดทางเลือกให้คนไทยนอนรอความตาย ฝ่ายค้านต้องดำเนินการตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกสภาเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข” นายอนุสรณ์ กล่าว

อนุสรณ์ ย้ำ แก้รัฐธรรมนูญ ต้องยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคยังมีความเห็นไม่ตกผลึก ว่า การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเปลี่ยนเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา เห็นว่ามีบางประเด็นที่ยังเห็นไม่ตรงกันนั้น ประชาชนจับตาดูอยู่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ รัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้ประเทศเสียโอกาส เมื่อมีรัฐธรรมนูญแบบนี้ก็จะได้รัฐบาลที่สู้โควิดได้เท่านี้ แม้ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นว่าขณะนี้ควรพักเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้จนกว่ารัฐสภาจะเปิดสมัยประชุม เพราะมีประเด็นวิกฤติไวรัสโควิด-19 แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ปัญหาประเทศที่มาจากวิกฤติรัฐธรรมนูญสามารถดำเนินการคู่ขนานกันไปได้ ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมหารือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ หากยังไม่สามารถเดินสายเปิดเวทีได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จะดำเนินการในรูปแบบใดทดแทน เช่น การเปิดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนทางออนไลน์ผ่านเพจฝ่ายค้านเพื่อประชาชน จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

“รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยต้องยึดโยงกับประชาชน การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ใช่แก้เพื่อเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของคนบางกลุ่ม แล้วทำให้ประเทศชาติและประชาชนสูญเสียโอกาส” นายอนุสรณ์ กล่าว