จับตาผ่อนคลายนั่งกินในร้าน สมาคมภัตตาคารไทย เผยจะอดตายอยู่แล้ว

สมาคมภัตตาคารไทย จับตาผ่อนคลายพื้นที่นั่งกินในร้าน รับตรงๆ จะอดตายอยู่แล้ว ขอรัฐบาลจัดวัคซีนฉีดให้ผู้ประกอบการ้านอาหารด้วย

วันที่ 14 พ.ค.64 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) พิจารณาร่างผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่ โดยปรับมาตรการในพื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% และเปิดให้นั่งได้ถึง 21.00 น.นั้น คงต้องรอผลสรุปของรัฐบาลก่อนว่าจะจัดจังหวัดใดอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งสัดส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีจำนวนมากที่สุดอยู่ในพื้นที่กทม.

การอนุญาตให้กลับมานั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ ตามที่รัฐบาลกำหนดออกมาทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยินดีทำตามทั้งหมด ขอเพียงให้กลับมาเปิดขายอาหารแบบนั่งทานที่ร้านได้ก็พอ เพราะเป็นเพียงทางออกเดียวที่จะสามารถทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ร้านอาหารขนาดเล็กก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แม้จะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม และเชื่อว่าผู้ที่มานั่งทานที่ร้านจะเป็นผู้ที่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านจริงๆ ไม่ได้เป็นกลุ่มที่มานั่งกินเพื่อพบปะสังสรรค์กันเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน เป็นห่วงคนตัวเล็กตัวน้อย อาทิ ร้านข้าวแกง ต้มเลือดหมู อาหารตามสั่งต่างๆ

“ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรายย่อยรายได้หายไปเหลือเพียง 20% ต้องยอมรับตรงๆ ว่าแทบจะอดตายกันอยู่แล้วนับตั้งแต่การประกาศมาตรการควบคุมของรัฐบาล ที่ห้ามไม่ให้นั่งทานอาหารที่ร้าน เฉพาะกาม.ยอดขายเหลือวันละ300 ล้านบาท จากปกติขายได้วันละ 1,400 ล้านบาท “

นางฐนิวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ยื่นเรื่องไปยังรัฐบาล ขอรับวัคซีนต้านโควิด ฉีดให้กับคนในอุตสาหกรรมร้านอาหารก่อน โดยได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เพื่อแสดงความต้องการรับวัคซีน ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 100,000 คน จึงมองว่ารัฐบาลควรใช้โอกาสในช่วงที่ธุรกิจร้านอาหารยังไม่สามารถเปิดนั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มคนเหล่านี้ก่อน เพื่อทยอยลดจำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ลดลง เพราะต้องยอมรับว่า คนในร้านอาหารมีความเสี่ยงมาก ตั้งแต่เจ้าของร้าน พนักงาน คนส่งของ รวมถึงลูกค้าด้วย