เมื่อ 14 พ.ค. เอพี รายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาส ของปาเลสไตน์ ที่ปะทุศึกตั้งแต่ช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 10 พ.ค. ว่า ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีทีท่าจะลดราวาศอกกัน โดยฝ่ายอิสราเอลประกาศขยายการสู้รบสู่ภาคพื้นดิน หลังจากถล่มทางอากาศมาตลอด 4 วัน สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเกิน 100 ราย

กองทัพอิสราเอลส่งกำลังพลตรึงตลอดแนวชายแดนกาซา พร้อมเรียกทหารกองหนุนเข้ามาอีก 9,000 นาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบุกภาคพื้นดินเข้าไปในถิ่นของนักรบฮามาส แม้ว่าจะมีความพยายามจากชาติอื่นๆ รวมถึงอียิปต์ที่ส่งผู้เจรจาขอให้รีบยุติหรือบรรเทาการสู้รบโดยเร็ว

การต่อสู้ยกระดับความรุนแรงภายในพรมแดนอิสราเอล ที่ชาวยิวกับชาวอาหรับเปิดฉากปะทะกัน โดยเฉพาะที่เมืองล็อดส์ ใกล้กาซา แม้ทางการจะส่งกำลังตำรวจเข้าไปควบคุมสถานการณ์แล้วก็ตาม

สถานการณ์ดังกล่าวเป็นความรุนแรงระหว่างชาวยิวกับชาวอาหรับที่ดุเดือดที่สุดในรอบหลายสิบปี อีกทั้งทำให้นักรบที่อยู่ในพรมแดนเลบานอน ยิงจรวดลงทะเลข่มขู่ว่าจะเปิดแนวรบใหม่กับอิสราเอลทางภาคเหนือ หากยังไม่ยุติการสังหารชาวปาเลสไตน์

ด้าน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าว กล่าวว่า การโจมตีเขตแดนกาซา ทั้งทางอากาศและทางพื้นดิน ยังไม่หนักหน่วงที่สุดในตอนนี้ แม้ว่าการยิงและทิ้งระเบิดของฝ่ายอิสราเอลจะเขย่าเมืองกาซาตลอดคืนจนมาถึงเช้าวันศุกร์ที่ 14 พ.ค.

“ผมบอกแล้วอย่างไรว่า ฮามาสจะต้องชดใช้อย่างสาสมที่สุด เรากำลังทำอยู่และเราจะเดินหน้าต่อไปในการใช้กองกำลังอาวุธหนัก” นายกฯ สายเหยี่ยวของอิสราเอลกล่าว

การสู้รบที่ปะทุขึ้นช่วงเย็นวันจันทร์บานปลายมาจากเหตุวุ่นวายที่ตำรวจอิสราเอลบุกปะทะชาวปาเลสไตน์ที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ อัลอักซอ ในเขตเมืองเก่าของอิสราเอล กลุ่มฮามาสประกาศว่าจะต้องปกป้องพื้นที่ตรงนี้ จึงยิงจรวดเข้าใส่พรมแดนอิสราเอล ทำให้อิสราเอลเปิดฉากตอบโต้โจมตีทางอากาศทันที

จนถึงขณะนี้นักรบในกาซายิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลแล้วกว่า 2,000 ลูก ส่วนอิสราเอลตอบโต้ทิ้งระเบิดถล่มตึกในเมืองกาซา บ้านเรือนพังย่อยยับไปเป็นแถบ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 103 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงเด็ก 27 ราย ผู้หญิง 11 ราย ส่วนนักรบจีฮัดเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย ด้านผู้บาดเจ็บมีกว่า 530 ราย

โรงพยาบาลของชาวปาเลสไตน์ที่เคยใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลับเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศ นอกจากนี้ประชาชนในกาซายังไม่มีโอกาสฉลองเทศกาลอีฎิ้ลฟิตริ ที่ปกติแล้วครอบครัวและญาติมิตรจะมาฉลองร่วมกัน แต่ถนนของกาซากลับร้าง เพราะผู้คนต้องหลบระเบิด

นายฮัสซัน อาบู ชาบาน ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่มีบรรยากาศความรื่นเริงหลงเหลืออยู่เลย มีแต่การโจมตีทางอากาศ บ้านเมืองที่พังย่อยยับ ขอให้พระเจ้าช่วยทุกคนด้วย

ส่วนฝ่ายอิสราเอล มีผู้เสียชีวิต 7 ราย รวมถึงเด็กอายุ 6 ขวบ