อภ.โต้ข้อกล่าวหาคิดเปอร์เซ็นต์วัคซีนโควิดทางเลือก รพ.เอกชน ยันไม่หากำไรบนความทุกข์ ปชช.

อภ.โต้ข้อกล่าวหาคิดเปอร์เซ็นต์วัคซีนโควิดทางเลือก รพ.เอกชน ยันไม่หากำไรบนความทุกข์ ปชช. แจงเป็นแค่หน่วยงานคอยอำนาจความสะดวก

วันที่ 11 พฤษภาคม นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการอ้างว่า อภ.คิดค่าบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรื อโควิด-19 ทางเลือก เพิ่มเติมอีกร้อยละ 10 ว่า ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ อภ.เป็นเพียงหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการซื้อวัคซีนทางเลือก ซึ่งในหลักปฏิบัติโรงพยาบาล (รพ.) เอกชน จะมีการสั่งซื้อจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เมื่อเจรจาได้ และทราบจำนวนที่สามารถสั่งซื้อได้แล้ว รพ.เอกชนนั้นๆ จะต้องนำจำนวนวัคซีนที่ได้ไปบวกเพิ่มค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) อีกประมาณร้อยละ 3-5 และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) อีก ร้อยละ 7

“จากนั้นก็นำงบประมาณตามจำนวนนี้ มาให้ อภ. เป็นผู้ทำการซื้อวัคซีนต่อไป ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่าแวต เป็นสิ่งที่ รพ.เอกชน จะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เหมือนกับก่อนหน้านี้ อภ.ซื้อวัคซีนให้กับกรมควบคุมโรค ก็จะต้องมีการคิดค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่าแวต ในอัตราเดียวกันนี้เช่นกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการบวกเพิ่มค่าบริหารจัดการร้อยละ 10 ตามที่มีข่าวแต่อย่างใด” ผู้อำนวยการ อภ.กล่าว

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ยกตัวอย่าง บริษัทผู้ผลิตสามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้จำนวน 2 ล้านโดส จะส่งมอบให้ รพ.เอกชน ก. ได้ 1 ล้านโดส รพ.เอกชน ข. 1 ล้านโดส รพ.เอกชน ก. และ รพ.เอกชน ข. ก็เอาราคาวัคซีน ตามจำนวนที่ตัวเองได้รับการจัดสรรบวกค่าขนส่ง บวกค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก ร้อยละ 7 เป็นจำนวนเงินเท่าไร ก็ส่งให้ อภ. เป็นผู้ทำการซื้อต่อไป

“ไม่มีค่าบริหารจัดการร้อยละ 10 ดังที่มีผู้กล่าวอ้าง ไม่มีการมาฟันค่าหัวคิวหัวแบะ อภ.เป็นเพียงหน่วยงานกลางที่อำนวยความสะดวกในการซื้อวัคซีนเท่านั้น ไม่ได้มีการบวกเพิ่ม ไม่ได้จะมาหากินบนความทุกข์ของประชาชน และไม่ว่าจะเป็นในภาวะปกติเองก็ตาม” นพ.วิฑูรย์ กล่าวและว่า อภ.ตั้งขึ้นมาก็เพื่อความมั่นคงทางด้านยาและเวชภัณฑ์ของประเทศ โดยเฉพาะในภาวะโรคระบาด จึงไม่ได้จะมาหาความร่ำรวย