วันที่ 8 พ.ค.64 เว็บไซต์ เดอะ ฟิวเจอริสม์ นำเสนอข่าวว่า หัวหน้าฝ่ายระบบซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติของบริษัท เทสล่า มอเตอร์ ได้ออกมายอมรับว่า นาย อีลอน มัสก์ นั้น พูดเกินจริง เกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบขับขี่อัตโนมัติ ทั้งที่ความจริงยังไม่สามารถพัฒนาระบบให้ปลอดภัยถึงขั้นไร้คนควบคุมอยู่หลังพวงมาลัย โดยในปัจจุบันยังจำเป็นต้องมีผู้ขับขี่นั่งควบคุมอยู่

หัวหน้าฝ่ายระบบซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติของ บริษัทเทสล่า มอเตอร์ ได้เปิดเผยผ่าน เอกสารบันทึกของกองยานยนต์แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า นาย อีลอน มัสก์ ได้พูดเกินจริง ถึงความสามารถของคุณลักษณะขับขี่อัตโนมัติของรถเทสล่า

เอกสารที่ชี้แจงความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลทางกฎหมาย ได้บันทึกการติดต่อกันระหว่างกองยานยนต์แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย กับเจ้าหน้าที่ของเทสล่า รวมถึง นาย ซีเจ มัวร์ หัวหน้าฝ่ายระบบซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติของบริษัท เทสล่า

โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 นาย ซีเจ มัวร์ ได้ยอมรับกับกองยานยนต์แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า นาย อีลอน มัสก์ นั้นกล่าวเกินความจริง เกี่ยวกับความสามารถของระบบขับขี่อัตโนมัติ และ นาย อีลอน มัสก์ ได้ทวีตข้อความ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทางวิศวกรรม รวมถึงในขณะนี้ เอกสารระบบขับขี่อัตโนมัติของรถเทสล่า อยู่ที่ระดับ 2 ซึ่งระดับ 2 หมายถึงในระบบขับขี่อัตโนมัติ ยังคงต้องใช้คนขับที่เป็นมนุษย์ คอยควบคุมอยู่หลังพวงมาลัย เพื่อควบคุมรถ”

ทวีตดังกล่าวของ นาย อีลอน มัสก์ ที่ นาย ซีเจ มัวร์ กล่าวถึงนั้น ยังอ้างอิงไปถึงการบทสนทนาของ อีลอน มัสก์ ที่เจรจากับนักลงทุนเทสล่า ในเดือนมกราคมปี พ.ศ.2563 ซึ่งในระหว่างการเจรจานั้น อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ตนเอง “มีความมั่นใจอย่างสูงว่ารถยนต์จะสามารถขับเคลื่อนตัวเองได้ด้วยความน่าเชื่อถือที่มากกว่ามนุษย์ในปีนี้”

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า ระบบขับขี่อัตโนมัติของเทสล่า ยังมีปัญหามากมายสำหรับผู้ขับขี่ เช่น เกิดการละเมิดกฎจราจร ไปจนถึงอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเดือนรถเทสตุลาคมปี 2563 และ ในเดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมา ก็มีชายสองคนเสียชีวิตใน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่รถเทสล่า พุ่งออกจากถนน โดยไม่มีผู้ขับขี่อยู่ บนที่นั่งผู้ขับ

แม้ว่า ในขณะนี้ โลกจะเกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูงและน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มนุษย์ต้องเผชิญเช่นกัน โดยเฉพาะความสามารถที่ถูกนำเสนอเกินจริงในนามของการตลาด