นายคิตะซูมิถูกตั้งข้อหาเมื่อวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. ตรงกับวันเสรีภาพสื่อโลก เป็นนักข่าวต่างชาติคนแรกที่ถูกตั้งข้อหาตั้งแต่รัฐประหารเมียนมา 1 ก.พ. แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทูตญี่ปุ่นระบุว่า นายคิตะซูมิไม่มีปัญหาสุขภาพ แม้จะใช้เวลาหลายสัปดาห์ในเรือนจำอินเซน ซึ่งมีชื่อเสียงไม่ดีจากการจองจำนักโทษทางการเมือง

ก่อนหน้านี้ นายคิตะซูมิถูกทำร้ายและจับกุมครั้งแรก ระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจ ก่อนได้รับการปล่อยตัวทีหลัง

เอ็นเอชเค รายงานว่า ญี่ปุ่น ชาติผู้บริจาคความช่วยเหลือแก่เมียนมาเป็นเวลาหลายปี กดดันให้เมียนมาปล่อยตัวพลเมืองตน นายโทชิมิตสึ โมเตกิ กล่าวระหว่างการเยือนอังกฤษว่า “ตามปกติเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปล่อยพลเมืองสัญชาติญี่ปุ่นโดยเร็ว”

ทั้งนี้ พลเมืองเมียนมาถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 766 ราย จากกองทัพที่ปราบปรามผู้ประท้วง ตามข้อมูลสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ในเมียนมา ซึ่งเปิดเผยด้วยว่า นักข่าว 50 คน ยังถูกคุมขังในเมียนมา ในจำนวนนี้ถูกฟ้องแล้ว 25 คน และอีก 29 คน ถูกออกหมายจับด้วย

วันเดียวกัน เอพี รายงานว่า นายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้นานาชาติยกระดับการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขสถานการณ์การเผชิญหน้ากันระหว่างกองทัพเมียนมากับพลเรือน ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองหลังเผด็จการทหารเมียนมาเปิดฉากปราบปรามพลเรือนที่ลุกขึ้นต่อต้านการยึดอำนาจจนกลายเป็นเหตุนองเลือด

นายจางเตือนในเวทีประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ว่าหากปล่อยให้เหตุมิคสัญญีในเมียนมาบานปลายอาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง แต่ขอให้ดำเนินการแก้ไขอย่างระมัดระวังด้วยเพราะอาจนำไปสู่การเพิ่มความตึงเครียดในเมียนมา

อย่างไรก็ตาม นายจาง ยืนยันว่า ทางการจีนมีจุดยืนต่อต้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยมองว่า ควรสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการเปิดเวทีเจรจามากกว่าเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสันติ