ณวัฒน์ ฟาดคา คลับเฮาส์ ลั่นไม่ฉีด “วัคซีนเซิ่นเจิ้น” แนะญาติคนตาย ฟ้องรัฐบาล ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นฆาตกร ประชาชนทนทุกข์ ต้นตอระบาดแทบจะไม่ได้รับโทษ

วานนี้ (2 พ.ค.) ข่าวสดออนไลน์ จัดคลับเฮาส์ประจำสัปดาห์ เป็นครั้งที่ 4 โดยใช้ชื่อหัวข้อว่า “เมื่อประชาชน ต้องช่วยกัน ฝ่าฟันวิกฤต” โดยมีแขกรับเชิญทั้งหมด 4 คน ซึ่งเป็นภาคประชาชนที่ร่วมกลุ่มกันช่วยเหลือประชาชนด้วยกันเอง ในภาวะวิกฤต ประกอบด้วย ดวงฤทธิ์ บุนนาค จาก ต้องรอด Up for Thai , ปนัดดา วงษ์ผู้ดี จาก องค์กรทำดี , ณวัฒน์ อิสรไกรศีล จากโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” และ คริส โปตระนันทน์ : โครงการเส้นด้าย โดยถ่ายทอดผ่านทั้งเฟซบุ๊ก และยูทูป มีผู้สนใจรับฟังจำนวนมาก

ณวัฒน์ ได้ออกมากล่าวช่วงหนึ่ง วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงประเด็นเรื่องวัคซีน โดยระบุว่า รู้สึกหงุดหงิดใจ ที่มี พรก.ฉุกเฉิน แล้วปล่อยให้ทองหล่อกลายเป็นแบบนั้น และผลลัพธ์มาถึงตัวทุกคน และถือว่าการทำงานของรัฐนั้นล้มเหลว แต่ไม่สามารถบังคับคนมีสีมีเส้น แล้วต่อมาเป็นต้นตอของการระบาดที่คริสตัลคลับได้ และพฤติกรรมของรัฐก็ยังอุ้มชูผู้ที่กระทำผิดอย่างชัดเจน เย้อหยันสิ่งที่เกิดขึ้นต่อประชาชนมากมาย

ณวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่า เราต้องเริ่มกันที่สุดเริ่มต้น หากถอยหลังไปถึงต้นเหตุการระบาดในแต่ละรอบนั้น ถอยหลังไปอีกนิดหนึ่งก็บ่อนเถื่อน ถอยหลังไปอีกนิดก็แรงงานเถื่อน ถอยหลังไปอีกนิดก็เจอสนามมวย ที่กองทัพบกรับผิดชอบ ทั้งหมดนี้ไม่เคยลงโทษหรือไล่ใครออกจากราชการจริงๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาโดยประชาชนจะต้องตกทุกข์ได้ยากและทนรับ เพราะฉะนั้น พรก.ฉุกเฉินเป็นสิ่งที่ย่ำแย่มาก มันเป็นฆาตกร มันไม่ได้คร่าเฉพาะคนที่เสียชีวิตจากโควิด แต่มันกำลังฆ่าความสุขของผู้คนให้ตกอยู่ในความทุกข์ ซึ่งหากจะมีต่อก็ไม่ปฏิเสธ แต่ถ้ามีก็ควรจะใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการดูแลประชาชน แต่ถ้ามีแล้วทำอะไรไม่ได้ ก็อย่ามีดีกว่า ทุกคนจะทำช่วยทำอะไรที่มันวาไรตี้มายิ่งขึ้น ซึ่งมันยิ่งตอกย้ำว่า ทุกคนเจ็บจากการระบาดไม่พอ แต่ต้นตอก็ไม่ถูกลงโทษ

ณวัฒน์ กล่าวว่า ขนาดมี พรก.ฉุกเฉิน รมว.ยุติธรรม (สมศักดิ์ เทพสุทิน) ก็ยังไปปาร์ตี้กันแบบแทบจะขี่คอกันถายรูปในวันหลังสงกรานต์ จนมีผู้ติดเชื้อเกือบ 50 คน และเสียชีวิต 1 คน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เริ่มมีประกาศขอความร่วมมือแล้วให้เว้นระยะห่าง ลดการสังสรรค์ ขนาดชาวบ้านสดาน้ำสงกรานต์กัน 3 ขันยังจับติดคุก ขอโทษนะ และถ้าระบาดกันเองในสภาผมจะไม่ว่า แต่นี่มันมาระบาดสู่ประชาชน ถ้าเราไม่พูดถึงสาเหตุ ความชุ่ยของรัฐบาล คนที่ทำงานให้รัฐ รวมถึงคนมีเส้น และเราก็จะไม่เข้าใจว่าเหตุมันคืออะไร

ณวัฒน์ กล่าวต่อว่า คุณอุนทิน ก็ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พูดอะไรก็ไม่ฟัง แนะนำอะไรก็ไม่เชื่อ คิดว่าความคิดตัวเองดีที่สุด คิดว่าชัดที่สุดแล้วคือตัวเขา ยังคงทำงานได้ ใครลงชื่อไล่เท่าไหร่ก็ยังมุ่งมั่นทำงาน อ้างว่าตัวเองตื่นมาทำงานแต่เช้า คือไม่ได้ต้องการรู้สึก เราเป็นนายจ้างเขา เราพูดได้ว่าเขาไม่เหมาะกับการทำงานตรงนี้ เอาภาษีประชาชนไปใช้อิเหลิดเถิดเทิง ตายกันมากขึ้นทุกวัน บอกให้หยุดก็ควรจะหยุด เพราะว่าคุณเป็นลูกจ้างประชาชน เงินที่ใช้ก็เงินประชาชน

“รัฐบาลต้องปรับมายเซ็ทให้เป็นสากล อย่าลูกทุ่งนักเลย มีชั้นวรรณะ เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งอย่างเดียว มันไม่ได้ อะไรคุณก็ไม่ฟัง เช่น ขอวัคซีน คุณอนุทิน บอกว่า ประชาชนไม่มีสิทธิเลือก คุณจะมาบังคับ ประชาชนได้ยังไง ผมอยากให้ญาติฟ้องรัฐบาลทุกคน เพราะทำให้ประชาชนเข้าถึงช้า จนทำให้ประชาชนเสียหาย ญาติพี่น้องเสียชีวิต อยากให้คนไทยรักษาสิทธิ และสู้กับรัฐบาลให้มากกว่านี้ ผมจะไม่ฉีดวัคซีนเซิ่นเจิ้นเด็ดขาด ประชาชนต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ประวัติการฉีดแบบนี้ ทำไมยังรับได้ ยังสั่งเท่าไหร่เท่ากัน ประสิทธิภาพแค่ 50% คุณดื้อไม่ฟังใคร อย่าคิดเองเออเองว่าทำงานดีแล้ว สั่งมาเยอะๆ เดี๋ยวมันก็เกลื่อนตลาดแล้ว”​ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กล่าวในที่สุด