สับยับ! กม.คุมโควิดฉบับล่าสุด โทษประชาชนไม่ค่อยระวัง ทำเชื้อแพร่กระจาย

รุมสับ กม.คุมโควิดฉบับล่าสุด โยนบาป อ้างปชช.ไม่ค่อยระวังตัว ทำเชื้อกระจายทั่วประเทศ

กรณี ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่22) เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอก 3 ล่าสุด โลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ ช่วงหลักการและเหตุผล ที่ระบุว่า การระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นช่วงเทศกาล ประกอบกับประชาชนขาดการระมัดระวังตัว ผ่อนคลายไปกับสถานการณ์การควบคุมโรคที่ดีขึ้น จนเป็นผลให้การระบาดแพร่หนัก

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป
เป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น  โดยที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้เกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นในเดือนเมษายน ๒๕๖๔  อันเป็นช่วงวันหยุดเทศกาล โดยในรอบนี้ผู้ติดโรคจะไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อยมาก

ในระยะแรก ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่มีความผ่อนคลายกับสถานการณ์การควบคุมโรคที่ดีขึ้น ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ค่อยระมัดระวังป้องกันตัวอย่างในช่วงต้นของการระบาด จึงทำให้ โรคแพร่กระจายไปในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร มีผู้ป่วยติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน และต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข

กรณีจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดมาตรการควบคุมการระบาดของโรคให้เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อมิให้เหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันเป็น สถานการณ์ฉุกเฉินทวีความร้ายแรงมากขึ้น และให้สามารถยุติลงได้โดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติขึ้นไว้

ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความวิจารณ์การเขียนหลักการดังกล่าว ว่า “ดีแต่โทษประชาชน ว่าไม่ระมัดระวังตัว หัดยอมรับผิดบ้างสิ ที่ปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวด ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ แถมจัดหาวัคซีนได้น้อย-ได้ล่าช้า จนเสียชีวิตไปเป็นสิบเป็นร้อยแล้ว”