เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติสำคัญที่ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มและเพิ่มรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม
ที่ประชุมมีมติให้ขยายระยะเวลาส่งออก ตามโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2564 จากเดิมภายในเดือนมีนาคม 2564 ออกไปเป็นเดือนกันยายน 2564 ระยะเวลาโครงการฯ จากเดิมสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2564 ออกไปเป็นเดือนธันวาคม 2564 โดยคงหลักการตามที่ กนป. เคยให้ไว้โดยใช้กรอบวงเงินจ่ายขาดที่คณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 วงเงินรวมจำนวน 618 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขเมื่อสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) สูงกว่า 3 แสนตัน และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติแผนปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพป่าในบริเวณที่ทางราชการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันที่หมดอายุการอนุญาต เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าและเตรียมพร้อมพื้นที่สำหรับการปลูกป่าทดแทนตามแผนงานของกรมป่าไม้ รวมทั้งเห็นชอบร่างมาตรการและแนวทางการขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นพื้นฐาน (Base oil) น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ (Bio-Transformer oil) ผลิตผงซักฟอกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สารตั้งต้น MES) (Methyl Ester Sulfonate : MES (สารซักล้างและผงซักฟอก)) น้ำมันหล่อลื่นและจาระบีชีวภาพ (Bio Lubricants and Greases) พาราฟิน (Paraffin) และ สารกำจัดศัตรูพืช/แมลง (Pesticides/ Insecticides) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทาง มาตรการในการส่งเสริมการผลิต การตลาด การศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป

พล.อ. ประวิตร ยังได้เน้นย้ำให้กรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด และ ผู้ว่าราชการจังหวัด
สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา นครศรีธรรมราช และชุมพร กวดขันให้โรงงานและลานเทรับซื้อผลปาล์มดิบตามโครงสร้างราคาอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวสวนปาล์มได้อย่างยั่งยืนต่อไป
พล.ต.อ. ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นข้อสั่งการของ พล.อ. ประวิตร ประธาน กนป. ได้มอบหมายให้ตนในฐานะประธานอนุกรรมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องระดมสมอง เพื่อเสนอแนวทางส่งเสริมให้เกิดการลงทุนแบบต่อยอดอุตสาหกรรมโอลิโอเคมีคอล เป็นการเพิ่มปริมาณความต้องการใช้ภายในประเทศ ยังเป็นการเตรียมการเพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ที่กำลังเข้ามาแทนที่ยานยนต์สันดาป รวมทั้งมาตรฐานยานยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิง
ยูโร 5 โดยในเบื้องต้นนี้ พบว่า 6 ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากผลักดันให้มีการผลิตใช้เองภายในประเทศ และส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดโลกซึ่งมีความต้องการสูง จะเป็นการเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม ทำให้เกิดกลไกในการสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันให้กับชาวสวนปาล์มและผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างเป็นธรรมทั้งระบบอีกด้วย