“อนุดิษฐ์” เผยผู้ป่วยโควิดตกค้างย่านสายไหมคลี่คลายแล้ว โอดเสียดายรัฐบาลไม่เตรียมการล่วงหน้า

วันที่ 29 เมษายน 2564 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดที่ตกค้างรอเตียงรักษาในพื้นที่เขตสายไหมว่า

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประสานงานให้กับผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังตกค้างในพื้นที่เขตสายไหม จำนวน 100 กว่ารายที่ยังไม่มีเตียงและยังไม่ได้รับการรักษา ซึ่งก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จากความร่วมมือของทุกฝ่าย

สัปดาห์นี้ปัญหาดังกล่าวได้เริ่มทุเลาเบาบางลง เพราะเตียงสนามในหลายพื้นที่เริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งคิดแล้วก็น่าเสียใจอยู่เหมือนกัน หากรัฐบาลเตรียมการล่วงหน้าได้ดีกว่านี้ ก็คงไม่เกิดความสูญเสียมากมายอย่างที่เราเห็นตามสื่อ ผมพูดเช่นนี้ไม่ต้องการกล่าวหาใคร แค่คิดว่าความสูญเสียบางเคสมันไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ

สำหรับวันนี้ ผมอยากฝากข้อเรียกร้องสำคัญไปถึงรัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้รวบอำนาจในการบริหารจัดการโควิด19 ไว้ (อีกครั้ง) อย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งการออก พรก.ฉุกเฉิน และ ครม.ได้โอนอำนาจในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู ช่วยเหลือประชาชน จาก พ.ร.บ.คุมโควิดจำนวน 31 ฉบับไว้ที่ท่านเรียบร้อยแล้ว

ผมไม่ห่วงเรื่องระบบสาธารณสุขเพราะผม #เชื่อมั่นในบุคลากรทางการแพทย์ ของไทย แต่สิ่งที่ผมเป็นกังวล คือ ระบบบริหารจัดการของรัฐ ที่กลายเป็นอุปสรรคของการบริหารจัดการระบบสาธารณสุขไทยและมาตรการเยียวยาต่างๆของรัฐ ที่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะมาตรการลดค่าน้ำค่าไฟ ที่ยุติความช่วยเหลือไปตั้งแต่รอบบิลเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

ผมจำได้ว่านายกรัฐมนตรี ได้แถลงเมื่อวันที่ 23 เมษายน ว่า รัฐบาลมีเงินเพียงพอสำหรับการดูแลเศรษฐกิจในรอบการระบาดใหม่นี้ 3.8 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าบริหารจัดการให้ดีก็น่าจะช่วยประชาชนได้พอสมควร

ผมจึงขออนุญาตเป็นตัวแทนคน #สายไหม สะท้อนข้อเรียกร้องต่างๆ ถึงรัฐบาลดังนี้ ครับ

1. ขอให้ท่านคงมาตรการปรับ #ลดค่าไฟ โดยบ้านอยู่อาศัย ขอให้ได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก และสำหรับกิจการขนาดเล็ก ขอได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก เพื่อเป็นการช่วยผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป

2.คงมาตรการ #ลดค่าน้ำ โดยลดค่าน้ำประปา 10% เฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก

ทั้งข้อ 1 และ 2 ขอให้ท่านยกเว้นภาษี VAT 7% สำหรับค่าน้ำค่าไฟให้ด้วย

3. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเจรจากับผู้ให้บริการ โทรคมนาคม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้อง work from home และ สนับสนุนการเรียนออนไลน์ดังนี้

3.1 ปรับลดค่าใช้จ่ายอินเทอร์เน็ตภายในครัวเรือน ให้ประชาชนดาวน์โหลด Data ฟรี 50 mbps รวมทั้ง Free DATA สำหรับการใช้ App ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโควิดทั้งหมด

3.2 ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เนตเพื่อการศึกษา (Wifi /3G/4G) (อาจลงทะเบียนด้วยเลข 13 หลักของนักเรียน) เพื่อรองรับการเรียนออนไลน์ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

ปล. ข้อ 3 นี้ ผมเชื่อว่าอยู่ในวิสัยที่รัฐจะขอความร่วมมือจาก Operator ทุกเจ้าได้

4. ลดราคาน้ำมันให้เป็นไปตามราคาตลาดโลก และยกเลิกการเก็บภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ

5.เลื่อนการจ่ายภาษีนิติบุคคลออกไปอีก 6 เดือน สำหรับธุรกิจ SMEs และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ

6.จ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะรายที่ติดเชื้อยกครอบครัว เนื่องจากการบริหารจัดการเตียงของภาครัฐล่าช้า ครอบครัวละ 10,000 บาท

7. เร่งจ่ายเงินค้างท่อเบี้ยเสี่ยงภัย และพิจารณาทวีคูณค่าเบี้ยเสี่ยงภัยสำหรับโควิดระลอกที่ 3 รวมทั้งพิจารณาต่ออายุราชการเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์

8.พักชำระหนี้ให้กับบุคคลหรือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ฯลฯ โดยรัฐต้องออกมาตรการชดเชยให้ผู้ประกอบการและสถาบันการเงินควบคู่กันไปด้วย

9. เยียวยาครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพอิสระ สถานบันเทิง ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก

10. ปรับเงื่อนไข มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan)ให้ผู้เดือดร้อนเข้าถึงได้จริง

ข้อเสนอทั้งหมดเป็นเสียงสะท้อนขอความช่วยเหลือบางส่วนจากผู้ได้รับผลกระทบตัวจริง เสียงจริง

ในเมื่อสภายังไม่เปิด ผมก็ขอใช้ช่องทางนี้เรียกร้องไปยังรัฐบาล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะรับฟังและพิจารณากำหนดความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป

ปล. อยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ความช่วยเหลือเรื่องไหนเพิ่มเติม ช่วยคอมเมนท์บอกกันด้วยนะครับ