“ชูวิทย์” แปลคำบ้านๆ “บิ๊กตู่” ฟาดรมต.ขี้นินทา เปรียบเถ้าแก่โชห่วย ด่าจับกัง ไม่ทำประโยชน์ 

กรณีที่มีข่าวออกมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ขู่รัฐมนตรีขี้นินทา ตอนหนึ่งว่า “มีรัฐมนตรีบางคนพูดจาไม่ดีและนินทาผมในที่ประชุมบางวง ให้ระวังตัวไว้ด้วย ถ้าผมได้ยินอีก ผมจำเป็นต้องปรับออก จะริบโควต้านั้น มาเป็นของผมเอง” 

วันนี้ ( 28 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ

สำนวนไทยว่าไว้ การติเตียนลับหลังเป็นเรื่องที่คนเราหนีไม่พ้น

นิสัยมนุษย์ โดยทั่วไปมักชอบนินทาลับหลัง สนุกปากบ้าง พูดตามอารมณ์บ้าง ตามน้ำบ้าง พรรคพวกพาไปบ้าง

ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังพูดอีกอย่าง โดยเฉพาะอยู่ในหมู่พรรคพวกนักการเมือง

เปรียบเสมือนอย่าเอาไปใส่ใจ เหมือนเทน้ำทิ้ง ว่าอย่างนั้นตามสำนวนไทย

ท่านนายกฯ พูดในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า มีรัฐมนตรีไปแอบนินทาลับหลัง จะยึดเก้าอี้รัฐมนตรีมาเป็นโควต้าของตัวเองเสียเลย

“อย่าให้รู้นะ เพราะมีทีมงานติดตามดูอยู่”

แถมสั่งสอนบรรดารัฐมนตรีว่า ตอนนี้ให้ห่วงเรื่องงาน ไม่ใช่เวลามาเล่นการเมือง

บรรดารัฐมนตรีได้แต่นิ่งเงียบทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม สภาพเหมือนเถ้าแก่ร้านโชวห่วย ด่าจับกังลูกน้องหน้าร้าน มัวแต่นั่งบื้อ ไม่ทำประโยชน์ วันๆห่วงแต่พื้นที่หาเสียงตัวเอง งานการไม่ทำ

หากแปลความตามการด่าภาษาแถวบ้านผมได้ว่า

“พวกลื้ออย่ามาด่าอั๊วลับหลังนะโว้ย หากอั๊วได้ยิน จะไล่ออกพ้นบ้านแล้วพวกลื้อจะตกงานไม่มีข้าวแดก

อย่ามานั่งคุกเข่าร้องไห้กราบตีนอั๊วก็แล้วกัน พวกลื้อมันไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

แล้วตอนนี้พวกลื้อทำอะไรกันอยู่วะ มัวมานั่งเมาท์ ไปเที่ยวเลานจ์ สีเด็กไปวันๆ

ปล่อยให้ชาวบ้านมาด่าอั๊วอยู่คนเดียว

อ้ายฉิบ.. แม่ง… เอ๊ย”

ผมช่วยท่านนายกฯ ด่านะครับ นิสัยผมกับท่านนายกฯ เหมือนกันเลยครับเรื่องด่าเนี่ย

อารมณ์มันขึ้นครับ พวกลิ่วล้อท่านคงชอบใจ”