ชาวเน็ตล่าชื่อ ‘นิด้า’ จี้สอบจริยธรรม’อานนท์’ หลังโพสต์ ต้อง ‘สังหารหมู่’ ฝ่ายซ้ายไทย

ชาวเน็ตล่าชื่อ นิด้าสอบจริยธรรม ’อานนท์’ หลังโพสต์ จำเป็นต้อง ’สังหารหมู่’ ฝ่ายซ้ายไทย และต้องรุนแรงโหดร้ายเท่ากับเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษา 6 ตุลาคม 2519

วันที่ 28 เม.ย.64 โซเชียลมีเดียมีการแชร์แคมเปญรณรงค์เรื่องทางสังคมจากเว็บไซต์ ‘เชนจ์’ (Change.org) ในประเด็นของการรวบรวมรายชื่อรณรงค์ให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทำการตรวจสอบจริยธรรมของ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์

เนื่องจาก ดร.อานนท์ มีความคิดที่อาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนและสังคม ซึ่งแคมเปญดังกล่าว สร้างเมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 โดย กลุ่มพลังคลับ โดยเรียกร้องให้ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ ศ.ดร. กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดีแห่งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ช่วยรับเรื่องไปตรวจสอบ

โดยเนื้อหาการรณรงค์มีดังนี้ “จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กชื่อ Arnond Sakworawich จำนวน 2 โพสต์ โดยมีข้อความตามที่แสดงไว้ด้านท้ายของแคมเปญนี้ ซึ่งข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความคิดของ ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ที่สนับสนุนการรัฐประหาร สนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับประชาชนและด้อยค่าประชาชน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ขาดการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ดังนั้นเราจึงอยากขอให้ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรม ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ว่าสอดคล้องตามมาตรฐานจริยธรรมวิชาชีพขององค์กรหรือไม่ หากพบว่าฝ่าฝืนมาตรฐานขององค์กร ก็ให้มีการดำเนินการตามบทลงโทษขององค์กร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นต่อไป”

ข้อความที่เป็นปัญหา: “ขอยืนยันว่าไม่ช้าก็เร็ว ด้วยแรงกดดันแตกแยกในประเทศเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็ว จะเกิดรัฐประหาร และจะเกิดความรุนแรง เป็นไปตามทฤษฎีและตามธรรมชาติ การกวาดล้างพวกสามกีบจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่น จงรอดูเถิด ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ได้เห็นแน่ๆ ถ้ายังยุแยงตะแคงรั่วมุ่งหมายจะล้มเจ้ากันอย่างนี้ไม่เลิก รับรองได้เห็น” (โพสต์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 19.55 น.)

“รัฐประหารมีความจำเป็นในการเมืองไทย ในฐานะของเครื่องตัดไฟ รัฐประหารไม่ได้ทำให้ประเทศไทยก้าวหน้านัก แต่ทำให้ไม่บรรลัยหรือตายหมู่เกิดสงครามกลางเมือง เมื่อใดก็ตามมีประชาธิปไตยเต็มใบเมื่อใด ประเทศไทยก้าวหน้าไปน้อยมาก ตีกันอย่างหนัก

ประชาธิปไตยครึ่งใบแบบสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เหมาะกับประเทศไทยมาก แต่ต้องได้คนเก่งและคนดีแบบป๋าเปรมครับ ถ้าสถานการณ์มันกัดกร่อนมาก รัฐประหารมีความจำเป็น ป้องกันสงครามกลางเมือง ขจัดภัยของชาติและราชบัลลังก์

ผมคิดว่าอีกไม่นานความจำเป็นที่จะทำรัฐประหารมีแน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยง และรัฐประหารเที่ยวนี้ต้องกวาดล้างให้สิ้นซากไม่ให้เหลือขยะแผ่นดิน จำเป็นต้องโหด แบบ 6 ตุลาคม 19 ที่ทำให้กระบวนการฝ่ายซ้ายจัดกระเจิงไม่ผุดไม่เกิดมาเกือบ 30 ปี เที่ยวนี้ก็จำเป็นต้องทำ ขจัดขยะแผ่นดินให้สิ้นซากเสียก่อน แล้วรีบถวายคืนพระราชอำนาจ

ประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญ (Constitutional monarchy) ไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute monarchy) และไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย (Democracy) แต่อย่างใดเลย

ถ้าประชาชนโง่ ประชาชนชั่ว ประชาชนเลว ประชาชนเห็นแก่ตัว เป็นประชาธิปไตยเมื่อใด ฉิบหายเมื่อนั้น ประชาชนเป็นใหญ่ไม่ได้ ต้องประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวไว้ ประชาชนต้องมีธรรมะก่อนจึงเป็นประชาธิปไตยได้ ธรรมาธิปไตยต้องมาก่อน” (โพสต์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 10.00 น.)

ประชาชนสามารถเข้าดูแคมเปญการรณรงค์ การรวบรวมรายชื่อรณรงค์ให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทำการตรวจสอบจริยธรรมของ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้ ที่นี่ ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงชื่อสนับสนุนราว 8,300 คนแล้ว

ทั้งนี้เว็บไซต์ Change.org เป็นเว็บไซต์สำหรับรวมรณรงค์แคมเปญและการร้องเรียนต่างๆ ทั่วโลก มีโครงการรณรงค์ใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายพันหัวข้อในแต่ละเดือน หัวข้อที่มีในเว็บไซต์จะมีหลากหลาย โดยหัวข้อที่เป็นที่นิยม อาทิเช่น ความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม สัตว์ สุขภาพ และอาหาร แต่กระทรวงดิจิทัลเคยระงับการเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 64 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในวันที่ 21 เมษายน เพจเฟซบุ๊ก Change ได้แจ้งประชาชนชาวไทยว่าเว็บไซต์ได้กลับมาใช้ได้ตามปกติอีกครั้งแล้วจากการต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายไทย โดยระบุว่า “ตลอดช่วงเวลานี้เราได้ทำงานอย่างหนัก โดยสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายไทยเพื่อให้เว็บไซต์กลับมาเปิดได้อีกครั้ง และล่าสุด ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการปิดกั้น Change.org เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญไทย!”