เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเคืองที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ภายใต้การกำกับดูแลของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม “ไม่เห็นหัวประชาชน” โดยทำการปรับลดจำนวนเที่ยววิ่งของรถโดยสารทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. เป็นต้นไป โดยอ้างสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารลดลง เพราะหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นการทำงานอยู่ที่บ้านและสถานศึกษาหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์

“การลดเที่ยววิ่งเป็นการลดความถี่ของการให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บริการต้องรอนานขึ้น ส่วนการที่รถโล่งขึ้นเป็นเรื่องที่ควรจะเป็นอยู่แล้วในช่วงโควิด-19 เพราะเป็นการรักษาระยะห่างระหว่างคน นายศักดิ์สยาม ควรเข้าใจว่าขณะนี้หลายคนยังไม่สามารถหยุดอยู่บ้านได้เฉยๆ โดยมีเงินลอยลงมาจากผู้รับเหมา และควรเข้าใจด้วยว่ารถเมล์เป็นบริการสาธารณะที่รัฐควรอุดหนุนโดยไม่ลดระดับการให้บริการความถี่ เพราะนี่เป็นการใช้เงินภาษีอุดหนุนผู้มีรายได้น้อยโดยตรง”

นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยการจะเพิ่มเที่ยววิ่งเพื่อลดความแออัด จะรักษาระดับความถี่ของการให้บริการและอาจเพิ่มเที่ยววิ่งในช่วงที่คนในรถค่อนข้างแออัดเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างคนให้ได้ ขณะนี้หลายคนยังต้องทำงานและไม่ได้รวยพอที่จะซื้อรถยนต์ส่วนตัว เรียกแท็กซี่ หรือขึ้นรถไฟฟ้าที่ราคาตั๋วแพง

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชน ประชาชนก็ต้องดูแลตัวเองกันไปก่อน จึงอยากประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชัน ‘Via Bus’ ที่สามารถติดตามรถเมล์ได้บนมือถือ ซึ่งรองรับทั้งระบบ iOS และ Android โดยแอปนี้พัฒนาจากทีมเล็กๆ เพียง 3 คน ที่มีเป้าหมายอยากแก้ปัญหาในสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำมานานแล้ว คือ การบอกพิกัดรถเมล์แบบเรียลไทม์ด้วย GPS