ครป. แนะ “ประยุทธ์” ลาออก! รับมือโควิดล้มเหลว ซัดคนโง่ดันขยันในภาวะร้ายแรง

วันที่ 28 เมษายน 2564 เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวในการสกัดการระบาด การรักษาผู้ติดเชื้อและการจัดหาวัคซีนที่ต่ำว่า

วิกฤตการระบาดโควิดรอบที่ 3 นี้ถือว่าเป็นมหาวิกฤตที่เป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติอย่างรุนแรง มีคนไทยติดมากขึ้นทุกวันจนทะลุมากกว่าวันละ 2 พันคนแล้ว ประชาชนมีเลือดเนื้อและชีวิต ประเทศไทยจึงต้องการมหาบัณทิตมาเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาภัยพิบัติร้ายแรงในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อผ่านพ้นทุกขภัย ไม่ใช่ผู้นำที่อับจนปัญญา ขาดวิสัยทัศน์ รังแต่โทษผู้อื่นนินทาว่าร้าย มีอำนาจอยู่ในมือมากว่า 7 ปีแต่ไม่มีผลงานไว้ให้ลูกหลานกล่าวขานแม้ยามบั้นปลาย

ในเมื่อท่านนายกน่าจะเป็นคนโง่ที่ขยันจึงไม่สมควรเป็นแม่ทัพรับศึกภัยพิบัติโรคระบาดโควิดร้ายแรง ผมจึงขอเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองโดยการลาออกในทันที และขอเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมรับผิดชอบปัญหาการจัดการสถานการณ์โควิดผิดพลาดโดยการประกาศถอนตัวออกมาจากผู้บัญชาการเหตุการณ์สูงสุดที่มีอำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชน ปล่อยให้ประชาชนล้มตายเป็นรายวัน

ขณะที่รัฐบาลประกาศให้ประชาชนที่เสียงติดเชื้อได้รับการตรวจฟรีทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน แต่ในความเป็นจริงวันนี้ โรงพยาบาลเอกชนกลับเก็บค่าใช้จ่ายและไม่มีการตรวจฟรีแต่อย่างใดตามนโยบาย ประชาชนกลุ่มเสี่ยงไปรอรับการตรวจจำนวนมากที่โรงพยาบาลของรัฐแต่ก็ไม่มีเพียงพอ หลายคนต้องกลับมานอนรอที่บ้านจำนวนมาก สงสารก็แต่หมอและพยาบาลที่ทำงานหนัก แต่รัฐบาลสนับสนุนเครื่องมือน้อยมาก อุปกรณ์เครื่องตรวจก็ไม่เพียงพอเพียง กู้เงินมาใช้จ่ายโครงการเงินผันประชานิยมมหาศาลนับล้านล้านบาท แต่สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์น้อยมาก การบริหารวัคซีนโควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาลนั้นเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่ วันนี้สังคมตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลซื้อแต่วัคซีน Sinovac ของบริษัทเอกชนจีนที่กลุ่มซีพีถือหุ้นอยู่ แต่กลับไม่ซื้อวัคซีน Sinopharm ของรัฐบาลจีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

ประชาชนที่ล้มป่วยด้วยโรคโควิดจำนวนมากไม่มีเตียงผู้ป่วยรองรับ บางคนต้องนอนรอที่บ้านนานกว่า 10 วันถึงจะมีรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา หลายคนนอนรอความตายอยู่ในห้องโดดเดี่ยวโดยโทรศัพท์ไปยังหมายเลขฉุกเฉินก็ไม่มีใครตอบรับ ประเทศไทยจะฝากอนาคตไว้ในมือพล.อ.ประยุทธ์ ที่สร้างวิกฤตครั้งนี้ขึ้นได้อย่างไร มีอำนาจในมือล้นพ้น มีเครื่องมือมากมายในแผ่นดิน แต่บริหารผิดพลาดแล้วมักโยนความผิดให้ผู้อื่น แม้แค่เรื่องเบอร์โทรฉุกเฉินแห่งชาติท่านเคยประกาศสั่งให้ กสทช.ยุบเหลือแค่เบอร์เดียวคือเบอร์ 191 ตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันผ่านไป 6 ปีแล้วยังทำไม่สำเร็จ มีคนป่วยนอนตายเพราะโทรศัพท์ฉุกเฉินไม่ติด ไม่มีรถมารับไปรักษา แต่โฆษกของรัฐบาลกลับบอกว่า อย่าหมดหวังในการโทรสายด่วน

ผมอยากถามว่า ประชาชนที่ป่วยนอนรอความตายอยู่ที่บ้านในเวลานี้จำนวนมาก รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร จะให้เขาไร้ทางออกแล้วรวมตัวมานอนรอความตายที่หน้าทำเนียบแทนไหม จึงจะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจากรัฐบาล และถ้าพวกเขานัดพากันออกมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบอะไรจะเกิดขึ้น ตำรวจก็ไม่มีใครอยากติดเชื้อ เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่มีใครอยากติดเชื้อ รัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการบริหารบ้านเมืองแม้มีอำนาจพิเศษครอบจักรวาลตามประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องแบกรับความรับผิดชอบสูงสุดแต่เพียงผู้เดียวตามพรก.ฉุกเฉินฯ เมื่อบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินล้มเหลวและเสียหายต้องรับผิดชอบต่อผลงานที่เกิดขึ้น อย่างน้อยต้องแสดงความเสียใจด้วยการลาออกและสั่งชดเชยเยียวยาค่าเสียหายแก่ประชาชน การที่พวกเขาต้องขาดรายได้และตกงานเพราะความบกพร่องและเลือกปฏิบัติของรัฐบาลที่ขาดธรรมาภิบาลถือเป็นภัยต่อความมั่นคงมนุษย์ แค่เพียงท่านขาดจริยธรรมไม่ใส่หน้ากากอนามัยตามกฎของรัฐบาลเองท่านต้องยืนโค้งคำนับขอโทษประชาชนเป็นชั่วโมงแล้ว เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ประชาชนและใช้ช่วงเวลาที่โค้งคำนับขอโทษนั้นสำนึกและตระหนักในความผิดและความบกพร่องของตนเอง แต่ท่านก็ไม่นำพา เราจึงปล่อยให้มีการคอร์รัปชันเวลาไปเรื่อยๆ กับนายกฯ แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว

ซ้ำร้ายรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจกลับออกมาบอกว่า ให้คนไทยนำเงินออมออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่รู้หรือว่าคนจนจะอดตายหมดประเทศแล้ว เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดกว่า 93% เป็นของคนไม่ถึง 10% ในประเทศนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของบัญชีทั้งหมดมีเงินฝากไม่ถึง 4 พันบาท แต่คนที่มีเงินฝากมากกว่า 10 ล้านบาทมีไม่ถึง 0.2% ของบัญชีทั้งหมด ทำไมรัฐบาลไม่ประกาศให้เจ้าสัวทั้งหลายที่เกื้อหนุนกันอยู่เสียสละเพื่อประเทศชาติบ้าง

ทำไมปล่อยให้เอาเปรียบกอบโกยกำไรไปในขณะประเทศวิกฤต โดยเฉพาะบรรดาธนาคารทั้งหลายทำไมไม่สั่งให้หยุดคิดดอกเบี้ยและการขูดรีดชั่วคราว พักชำระหนี้อย่างน้อยเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อให้ชีวิตพี่น้องแรงงานได้เดินหน้าต่อ ทำไมปล่อยให้ธุรกิจ SME โรงแรม ห้างร้าน สถานประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบต้องขาดทุนลงอย่างย่อยยับ เพื่อปล่อยขายกิจการในราคาขาดทุนให้กลุ่มทุนใหญ่ที่รอกวาดซื้อเป็นเจ้าของในราคาถูกๆ