‘หอการค้าไทย’ คาดภายใน 2 สัปดาห์ หากรัฐแก้วิกฤตโควิดไม่ได้ อาจเสียหายถึง 4.5 แสนล้าน

หอการค้าไทย ประเมิน รัฐคุมเข้มมาตรการควบคุม โควิด-19 2 สัปดาห์กระทบกำลังซื้อหดตัว เม็ดเงินหาย 80,000 ล้านบาท พร้อมคง จีดีพี ปีนี้โตตามกรอบเดิม 2.5 – 3 %

วันที่ 27 เมษายน 2564 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยยังไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจโดยยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวตามกรอบเดิมที่วางไว้ 2.5-3 % โดยได้พิจารณาครอบคลุมถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 แล้ว

ส่วนการคุมเข้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้ง การสวมหน้ากากอนามัย การปิดสถานบริการ การเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง ต่อเนื่องออกไปอีก 2 สัปดาห์ เชื่อว่าจะกระทบการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยหดตัว 30-40 %หรือมีเม็ดเงินหายไปประมาณ 80,000 ล้านบาท แต่ยังเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งจะทำให้มูลค่าความเสียหายโดยรวมยังอยู่ในกรอบเดิมที่ประเมินไว้ 3 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 2 สัปดาห์ ประเมินความเสียหายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 – 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ จีพีดี ทั้งปี ดังนั้นหากรัฐบาลหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ได้เร็ว มีการเตรียมพร้อมเตียงสนามให้เพียงพอก็จะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค และเชื่อว่าหากควบคุมได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง ทิศทางเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 นอกจากนี้ หอการค้าไทย คาดว่า ตัวเลขส่งออกไตรมาส 2 จะขยายตัวที่ 5-7% ซึ่งจะช่วยประคองสถานการณ์เเศรษฐกิจไทยได้

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องดำเนินการ 3 ด้าน คือ หยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ให้เร็ว เร่งการจัดหาและกระจายวัคซีน เพื่อเสริมความเชื่อมั่น และเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่รัฐบาลเตรียมเงินไว้ประมาณ 3.8 แสนล้านบาท พร้อมระบุ หอการค้าสนับสนุนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ของจังหวัดภูเก็ต หรือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซี่งหากมีการฉีกวัคซีนให้กับประชาชนได้เกิน 50-70% ในไตรมาส 3 แล้วและเป็นไปตามแผน จะทำให้การท่องเที่ยวไทยที่ตั้งเป้าไว้ 4-6 ล้านคน จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวเกิน 3% ได้