ชำนาญ ชี้ มท.เล็งจัดงบให้ทุกจว. 4.5 หมื่นล้าน นักการเมืองจะเคลมเป็นผลงานพรรคไม่ได้

‘ชำนาญ’ ชี้ มท.เล็งโปรยงบให้ทุกจว. 4.5 หมื่นล้าน ‘นักการเมือง’ เอาไปเคลมเป็นผลงานพรรคไม่ได้

วันที่ 21 เมษายน 2564 จากกรณีที่ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ตั้งข้อสังเกตกรณีที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ออกหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้จัดทำคำขอเพื่อทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น ระดับพื้นที่ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท จึงต้องจับตาการจัดโครงการและรูปแบบที่จะเร่งรัดงบประมาณให้กับพื้นที่ของนักการเมืองฝั่งรัฐบาล เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และอาจเกิดการยุบสภาหลังผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565

นายชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นการกำหนดกรอบงบประมาณ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการยื่นเรื่องเงินอุดหนุนจากส่วนกลาง แต่ว่าไม่สามารถนำไปอ้างว่าเป็นของพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนใด

ส่วนการยุบสภาเป็นการคาดเดาทางการเมือง เพราะต้องอาศัยหลายเหตุผล อาจจะพิจารณาหลักได้ดังนี้ คือ 1.มีแนวโน้มว่าพรรคหลักของรัฐบาลจะแตกออก และ 2.ไม่ว่าพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนใดก็แล้วแต่ ไม่อยากยุบสภา เพราะต้องเหนื่อยหาเสียง และไม่แน่ใจว่าจะชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าจะใช้กติกาเดิมหรือกติกาใหม่ก็ตาม นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็มีโอกาสได้ส.ส.หลายที่นั่ง

นายชำนาญ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการของบประมาณ ก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาและจัดสรรงบในสภาอยู่ดี มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณ มาจากพรรคการเมืองตามสัดส่วน รัฐบาล และสำนักงบประมาณ แต่หากนำงบส่วนนี้ไปอ้างว่ามาจากพรรคการเมืองใดก็ถือว่ามีความผิดทันที อีกอย่างคือ อดีตบิ๊กข้าราชการทั้งหลาย ทั้งบิ๊กผู้ว่าราชการจังหวัด บิ๊กตำรวจ น้อยมากที่จะเจริญเติบโตในเส้นทางการเมือง เพราะไหว้หรือโน้มหาประชาชนก่อนไปเป็น ยกเว้นแต่จะมีแนวทางประชาธิปไตยตั้งแต่สมัยรับราชการ