‘ประยุทธ์’ ตีปี๊บ กำลังเจรจา อาจได้ไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดส เริ่มส่ง ก.ค.

‘ประยุทธ์’ เผยพร้อมให้ ปชช.ลงทะเบียนหมอพร้อม 1 พ.ค.นี้ เร่งสต๊อกยาฟาวิพิราเวียร์ 3.5 ล้านเม็ด กางไทม์ไลน์จัดหาวัคซีน ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ แจงไทม์ไลน์วัคซีนอาจได้ไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดส 

วันที่ 20 เมษายน 2564 เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ผู้สื่อข่าวถามถึง กระแสโซเชียลโจมตีรัฐบาลกรณีอยากให้เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนตอบสนองท่านแล้ว ไม่ใช่ว่าตนไม่ได้ทำ ที่ผ่านมาทำมาตลอด มอบให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดำเนินการ แต่ตนต้องการให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกคณะหนึ่งที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค.เป็นประธาน ได้หารือสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และผู้รู้ทั้งหลายมาให้ข้อมูลตรงนี้ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้อย่างไรให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามาในประเทศไทย

วัคซีนสำคัญอีกตัว คือบริษัทเอกชนเวลาเขาจะนำออกมา เขาก็ต้องขออนุญาตรัฐบาลเขาเช่นกัน เราก็ติดต่อรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วย เพราะฉะนั้นเป็นความยากง่ายของเรา กราบเรียนว่าที่เราได้รับวัคซีนมาในช่วงแรก เราจัดซื้อ สั่งมา ในฐานะที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีมากในระยะที่ 1 เราก็จัดหาวัคซีนมาตามความจำเป็น เราไม่อยากทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ

วันนี้เมื่อพิสูจน์ทราบมาแล้วตนก็เปิดโอกาส ช่องทาง ให้หลายๆ ยี่ห้อได้เข้ามาเสนอความต้องการจะขายวัคซีนให้กับเรา เราก็ต้องหาช่องทางว่าจะซื้อได้อย่างไร วันนี้เนื่องจากเป็นการติดต่อระหว่างรัฐต่อรัฐในการใช้วัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินเวลานี้ เพราะฉะนั้นต้องไปดูภาคเอกชนของเขากับรัฐของเขาด้วย แล้วเราก็พร้อมที่จะรับวัคซีนของเขามาในขณะนี้ ก็ขอให้เข้าใจตรงนี้แล้วกัน ไม่ใช่เพราะเราจองช้าหรือช้าเกินไป จำนวนน้อยเกินไป ทุกอย่างมันพัฒนาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เราไม่อยากให้ประชาชนต้องมีความเสี่ยง ในตอนแรกที่เริ่มมีการผลิตวัคซีนออกมา หลายประเทศก็เช่นเดียวกันกับเรา ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนนั้นตนได้เร่งรัดให้มีการฉีดให้เร็วที่สุดในโควต้าที่ให้ไป ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรับบริการวัคซีนให้ทั่วถึงตามกำหนดความเร่งด่วนออกไปในขณะนี้ของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ตนเร่งรัดใน ครม.ไปแล้ว ให้ทุกจังหวัด ให้ กทม. เร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับไปให้เร็วที่สุด จำนวนมากที่สุดที่ได้ไปจนครบ และรัฐบาลก็เตรียมวัคซีนสำรองตรงนี้ไว้อีกด้วยในระยะต่อๆ ไปเพื่อให้ทั่วถึง เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้

ตั้งใจจัดหา แต่วัคซีนไม่ใช่ยาปกติ

“ที่ถามว่ารัฐบาลไม่เปิดทางให้เอกชนเป็นเรื่องการผูกขาดนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย คิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรจะปลอดภัย ทำอย่างไรจัดหาได้ และในส่วนของการดำเนินการเราไม่สามารถไปซื้อเหมือนซื้อยาปกติทั่วไปได้ เพราะเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน และบริษัทผู้ผลิตเอกชนนั้นไม่รับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียง จึงจำเป็น รัฐต้องเป็นผู้จัดหาในขณะนี้ ซึ่งต่อไปคงคลี่คลายตรงนี้ไปได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามถึงการดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่เครือข่ายที่เป็นสาเหตุแหล่งแพร่ระบาดเชื้อโควิด ตั้งแต่ขบวนการลักลอบค้าแรงงาน กรณีบ่อนพนัน และกรณีผับบาร์เลานจ์ ซึ่งหนึ่งในนายตำรวจที่ดูแลพื้นที่ สน.ทองหล่อ คือหลานเขย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกฯกล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีแหล่งแพร่ระบาดเหล่านี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และตนได้กำกับดูแล

กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้มีการพิจารณาโทษและลงโทษไปบ้างแล้ว และหลายอย่างเป็นเรื่องการตรวจสอบต่อไปให้หาถึงเจ้าของที่แท้จริงของสถานบริการต่างๆ ว่าใครเป็นเจ้าของ และจะดำเนินคดีต่อไป ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ ทั้งนี้ ในทุกกรณีแหล่งแพร่ระบาดต่างๆ ตนได้มีการสอบสวนทุกกรณีไป

เดินหน้าต่อเวลาเราชนะ 

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงมาตรการเยียวยาประชาชน ว่าช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะประชุมหารือในเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมกับฝ่ายเศรษฐกิจว่าจะสามารถใช้งบประมาณต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด และในโครงการใดบ้าง แต่โครงการที่ค้างอยู่ในขณะนี้โครงการเราชนะ ซึ่งคงทำต่อไปในขณะนี้ และในส่วนของมาตรา 33 เรารักกัน และโครงการอื่นที่จบไปแล้วก็จะพิจารณากันอีกครั้ง ก็คงได้คำตอบในเร็ววันนี้ ก็ต้องนึกถึงรัฐบาลด้วยว่าเรามีงบประมาณแค่ไหน แต่ยืนยันเราไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ อย่างไรก็ต้องจัดหาให้จนได้ แต่จะหาด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง ว่าจะมีงบประมาณที่เพียงพอหรือไม่ในสถานการณ์เช่นนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พบว่าบุคลากรทางแพทย์ติดโควิด-19 จำนวนมากจะกระทบการรักษาผู้ป่วยจะมีแนวทางอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าบุคลากรทางการแพทย์ติดมาอย่างไร เขาไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เรื่องนี้ต้องเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงทหาร ตำรวจที่ไปดูแลด่านตรวจ จุดสกัดต่างๆ ดูแลผู้ชุมนุมหรือดูแลในแหล่งที่มีการแพร่ระบาด เขาติดเชื้อมาก็ต้องเห็นใจ ต้องดูแล ตนจึงไม่ต้องการให้ไปสร้างภาระให้กับบุคลากรในเรื่องที่จะไม่จำเป็นที่ต้องใช้คนจำนวนมากลงไปดูแลใกล้ชิดกันอีก มันก็จะเป็นการแพร่เชื้อขยายกันต่อไป เราต้องรักษาบุคลากรทางการแพทย์ให้มากที่สุด ซึ่งรัฐบาลก็มีมาตรการในการดูแลบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้ว

ลงทะเบียนหมอพร้อม 1 พ.ค.

เมื่อถามว่าจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้กระทบเศรษฐกิจและมีคนตกงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเรื่องคนตกงานรัฐบาลก็มีหลายมาตรการที่ออกไป ซึ่งต้องไม่ลืมว่ามาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นมาตรการที่ทำให้รักษาการจ้างงานไว้ให้ได้มากที่สุด และก็จะดูว่าจะทำอย่างไรกันอีก ทั้งเรื่องเอสเอ็มอีหรืออะไรต่างๆ ที่จะต้องมีการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณที่มีอยู่เดิม ตรงนี้เป็นวิธีการทำงานของเรา

เมื่อถามถึงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการเร่งรัดไปแล้วจึงทราบว่าในส่วนของแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มให้มีการลงทะเบียนในวันที่ 1 พ.ค. เนื่องจากจะต้องมีการเตรียมการมากพอสมควรเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั้งประเทศได้โดยเร็ว เดิมมีการนำข้อมูลมาจากผู้ที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศซึ่งก็ได้มาจำนวนหนึ่ง แต่ที่เหลือก็ต้องหาเพิ่มเติมว่าคนทั้งประเทศมีความต้องการจะฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจเท่าไหร่อย่างไร

มีแผนสำรอง หายาฟาวิพิราเวียร์ 3.5 ล้านเม็ด 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ หลายคนเข้าใจว่าเราขาดแคลน แต่รัฐบาลก็ได้มีการจัดเตรียมแผนสำรองในการจัดหาไว้แล้วโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ใช่ยาที่กินแล้วป้องกันโควิด-19 ส่วนวัคซีนก็เป็นวัคซีนที่สร้างภูมิต้านทานในตัวเราให้เข้มแข็งขึ้นและไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น อย่างไรก็ตาม ก็ต้องใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่คือการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ

ทั้งนี้ เห็นหลายจังหวัดมีการควบคุมผู้ที่ใส่หน้ากากและไม่ใส่หน้ากากและมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ใส่หน้ากาก ตนก็ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน แต่บางครั้งก็จำเป็น เพราะไม่อย่างนั้นทุกคนก็ประมาทเลินเล่อ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้นเรื่อยๆ ตนก็โทษใครไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องไม่โทษซึ่งกันและกัน แล้วก็ร่วมมือกัน

“ขอขอบคุณกำลังใจที่ให้มากับผม ให้มากับรัฐมนตรี ให้กับ ครม. ซึ่งประชาชนส่วนมากก็ให้กำลังใจมากับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ ให้กำลังใจกับรัฐบาล ซึ่งผมก็จะไม่หยุดนิ่งในการที่จะคิดบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องฟังความคิดเห็นจากกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า สำหรับแผนจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เดือน เม.ย.-พ.ค.จำนวน 2 ล้านเม็ด เดือน พ.ค.-มิ.ย.จำนวน 1 ล้านเม็ด เดือน มิ.ย.- ก.ค.จำนวน 5 แสนเม็ด ฉะนั้นเราจะสั่งซื้อยาฟาวิพิราเวียร์สำรองในสต๊อก จำนวน 3.5 ล้านเม็ด ให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งวันนี้ทราบว่ายังมีพอสำหรับในขั้นต้นที่จะใช้ในการรักษาสต๊อกต่างๆ ที่เตรียมไว้หากสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นก็ต้องเพิ่มไปอีก ฉะนั้น ก็ต้องมีแผนเป็นขั้นตอน

แจงไทม์ไลน์วัคซีน อาจได้ไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดส 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการเข้ามาของวัคซีนย้อนไปเดือน ก.พ.นี้รวมเข้ามา 317,000 โดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 200,000 โดส แอสตร้าเซนเนก้า 117,000 โดส เดือน มี.ค.ซิโนแวคเข้ามาอีก 800,000 โดส เดือน เม.ย.ซิโนแวคเข้ามาอีก 1,000,000 โดส รวมเข้ามาแล้ว 2,117,000 โดส ตอนนี้ได้จัดแผนในการแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้นแล้ว และขอให้เร่งรัดการฉีดให้มากยิ่งขึ้น หากบุคลากรทางการแพทย์ไม่พอขอให้ไปรวบรวมบรรดาหมอ พยาบาล ที่มีความสามารถ มารวมช่วยกันฉีด

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนก็พร้อมยินดีช่วยฉีดตรงนี้ ได้มีการหารือกันอยู่แล้วแหละ จะทำอย่างไรให้รวดเร็วขึ้น ในส่วนของวัคซีนที่ประมาณการไว้ที่จะเข้ามาและติดต่อไว้ในขณะนี้เรียนให้ทราบ ในวันที่ 24 เม.ย. ซิโนแวคจะเข้ามาอีก 5 แสนโดส เดือน พ.ค.ซิโนแวคเข้ามาอีก 1 ล้านโดส แต่ในส่วนของ 1 ล้านโดสตรงนี้ต้องรอนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย เพราะการนำออกจากประเทศจีนต้องขออนุมัติรัฐบาลจีนก่อน ซึ่งเราหารือกันเป็นประจำอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทย จะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่เดือน มิ.ย.ประมาณ 4-6 ล้านโดส และเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือน ก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี’64 จนครบ 61 ล้านโดส เพราะฉะนั้น บวกกับที่เราจะจัดหาเพิ่มเติมเป็นวัคซีนทางเลือกก็คิดว่าน่าจะเพียงพอ ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติกำลังเจรจากับไฟเซอร์ ประเทศอังกฤษ มีความเป็นไปได้ ส่งให้ได้ช่วงเดือน ก.ค.ถึงสิ้นปี’64 ประมาณ 5-10 ล้านโดส ขณะนี้กำลังรอใบเสนอราคาและเงื่อนไขอยู่ ซึ่งเรามีวัคซีนอีกหลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ตนไม่อยากพูดไปล่วงหน้า เพราะอยู่ในขั้นตอนการติดต่ออยู่ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ