ไทยสร้างไทย จี้รัฐบาล ตั้งกองทุน ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายหากประชาชนได้รับผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีดวัคซีนโควิด ชี้รัฐเป็นต้นเหตุ ปิดโอกาสประชาชนในการเข้าถึงวัคซีนด้วยตนเองแล้วยังผลักภาระให้ประชาชนต้องทำประกันภัยหากได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน

วันที่ 19 เมษยน 2564 นพ.อาสาห์ ธีรนวกรรม คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีการจัดการวัคซีนโควิด-19 ของไทย โดยเฉพาะกรณีได้รับผลข้างเคียงว่า

หลังจากที่มีการอนุมัติแบบกรมธรรม์ประกันภัยแพ้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ออกมาโดย คปภ. โดยมุ่งหวังให้เกิดความมั่นใจในการรับวัคซีน หากมีผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนดังกล่าว จริงๆแล้วอันนี้ถือเป็นข่าวดีจริงๆหรือ ?? ประเด็นที่อาจจะต้องทบทวนอย่างเร่งด่วนคือ ความเหมาะสมในการบริหารจัดการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง

เพราะอย่างที่ทราบกันว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น รัฐบาลเป็นผู้ที่มีบทบาทโดยตรงทั้งในส่วนของการจัดซื้อ และเป็นผู้เลือกบริษัทที่จัดจำหน่ายเอง ซึ่งพบว่าทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ และในแง่ของการเข้าถึงนั้น เป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงว่า มีการบริหารจัดการได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งไม่ได้สร้างความมั่นใจในการรับวัคซีน ขณะนี้คนไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็มมีเพียง 0.01% ของประเทศ

นอกจากนี้หากมีผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนแล้ว กลับผลักภาระในการซื้อประกันภัยแพ้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนต้องแบกรับเอง ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศมาเลเซีย หรือประเทศฟิลิปปินส์ที่มีการตั้ง กองทุนเพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วมีผลข้างเคียง นั่นแปลว่าต้องรับความเสี่ยงเองทั้ง ๆที่ไม่มีโอกาสในการเลือกวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และยังต้องซื้อประกันฯเพิ่มเติมอีก

สิ่งที่ทางรัฐบาลควรเร่งดำเนินการคือการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เองจากทางภาคเอกชนที่มีความพร้อม และควรเร่งให้มีการอนุมัติการนำเข้าเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการเข้าถึง และควรพิจารณาการตั้งกองทุนเพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

“อย่ามัวแต่สนใจอยู่กับการอนุมัติประกันภัยแพ้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้ง ๆที่ประชาชนก็ยังไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้รับวัคซีน ” นพ.อาสาห์ กล่าว