คณะราษมัม ยืน หยุด ขัง ร้องปล่อยลูก เผยพริษฐ์ร่างกายไม่ไหว แต่ใจสู้เต็มร้อย

คณะราษมัม ” จัดกิจกรรม ยืน หยุด ขัง เรียกร้องปล่อยแกนนำ เผยอาการล่าสุดลูกชาย รู้ ว่าร่างกายไม่ไหว แต่ใจสู้เต็มร้อย

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ บรรยากาศจัดกิจกรรมของ คณะราษฎร เพื่อทำกิจกรรมยืนทวงความยุติธรรม เป็นเวลา 112 นาที เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สิทธิประกันตัวแกนนำคณะราษฎร ที่ถูกคุมขัง โดยกิจกรรมดังกล่าวกำหนดให้ผู้เข้าร่วมต้องยืนสงบนิ่ง ชูภาพแกนนำม็อบราษฎรที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว พร้อมป้ายข้อความเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว

กิจกรรมดังกล่าวมีมวลชน ตลอดจนบรรดาครอบครัวและญาติแกนนำคณะราษฎร ที่ถูกคุมขังเข้าร่วม อาทิ นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์, น.ส.เมธาวี สิทธิจิรวัฒนกุล พี่สาวของน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของนายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก, มารดาของนายอานนท์ นำภา , มารดาของ นายไชยอมร หรือ แอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ รวมทั้งนพ.ทศพร เสรีรักษ์ และ น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ นักแสดง เข้าร่วมด้วย

นางสุรีรัตน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเพื่อส่งกำลังใจให้กับนายพริษฐ์ และแกนนำทุกคนที่ถูกคุมขัง ขอบคุณแนวร่วมที่มาร่วมทำกิจกรรม แม้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรก แต่มีคนร่วมเกินคาด อย่างไรก็ตามคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะจัดต่อไปทุกวันเสาร์ จนกว่าลูกจะถูกปล่อยตัว ส่วนนายพริษฐ์นั้น ทราบจากทนายว่า มีกำลังใจดี สำหรับการจัดกิจกรรม เช่น ส่งจดหมาย ที่วานนี้ (16 เมษายน) มีผู้เขียนจดหมายจำนวนหมื่นฉบับ นายพริษฐ์ รับทราบและยิ้มแบบคนไม่มีแรง ทั้งนี้ตนขอให้นายพริษฐ์ทบทวนกับการประท้วงด้วยการอดอาหาร ด้วยเหตุผล

“วันนี้ทราบว่า พระพยอมออกสื่อมวลชน ที่แสดงความเป็นห่วง ภาวนาว่าที่เขามาขึ้นศาล คดี ม็อบเฟส จะได้โอกาสสื่อสาร ถึงความห่วงใยต่อการอดอาหารของเขา การทำกิจกรรมที่เกิดขึ้นอยากสื่อสารให้คนในโลกรับรู้ด้วยว่า ลูกไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุดทราบว่าเพนกวินน้ำหนักลด 20 กิโลกรัม และมีอาการวูบจากภาวะน้ำตาลตก แม่ไม่อยากให้นิสิตที่เป็นว่าที่บัณฑิต ที่มีผู้นำบอกว่าต้องการบัณฑิตเป็นแบบนี้ ดังนั้น ควรให้เขาได้รับอิสระภาพต่อสู้คดี เพนกวินอดอาหารเดือนกว่า เราต้องการให้เขาได้ต่อสู้ หากเขาผิดต้องดำเนินการตามผิด ไม่มีอะไรที่จะต้องกักขังเขาไว้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ภาพพจน์ของไทยถูกมองว่า เมืองไทยทำอะไรกับคนที่เห็นต่าง” นางสุรีรัตน์ กล่าว

นางสุรีรัตน์ กล่าวด้วยว่า ทราบว่าสภาพของนายพริษฐ์ ไม่ไหว แต่ใจเต็มร้อย ตนไม่ต้องการประเด็นหรือเหตุการณ์ในประเทศไทย หากนายพริษฐ์ หรือ น.ส.ปนัสยา เป็นอะไรไป ดังนั้นขอให้ผู้นำประเทศพิจารณา อย่านิ่งนอนใจ ขอให้ยื่นมือช่วยเด็กด้วย นอกจากนั้นขอฝากไปยังผู้รักษากระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่ที่ถูกต้องตามจริยธรรม ตามกฎหมาย มนุษยธรรม รวมถึงรักษาสปีริตสถาบันยุติธรรม เพื่อให้คงอยู่กับประเทศไทย และเป็นที่ยึดมั่นและหลักให้กับคนไทยทุกคน

ทั้งนี้ตนไม่เคยหมดหวัง เชื่อว่าในสังคมไทยไม่มีใครคิดเหมือนกัน ต้องมีฮีโร่ อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ เคยขอบิดาให้พาไปดูการพิจารณาคดีของผู้พิพากษา เพื่อต้องการทราบว่ากระบวนการยุติธรรมช่วยคนได้หรือไม่ จนผู้พิพากษาเรียกให้แนะนำตัว