วันที่ 16 เมษายน 2564 นคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลกและอดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ต่อสถานการณ์อดอาหารประท้วงของแกนนำราษฎรโดยเฉพาะ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ได้ทำการอดอาหารประท้วงเป็นเวลาหลายวันเพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวในการสู้คดีการเมืองในขณะนี้ว่า

รุ้ง เพนกวิน น้องจะตายไม่ได้ น้องต้องหยุดอดอาหารประท้วง และลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง

รุ้ง เพนกวิน น้องทั้งสอง และ พวกเรา ทราบดีว่า พวกเรากำลังสู้อยู่กับใคร สู้อยู่ กับระบอบอะไร

เขา เป็นจอมเผด็จการทรราช ไม่มีหัวใจ ไม่มีมนุษยธรรม โหดเหี้ยมและอำมหิต น้องอย่าหวังที่จะได้รับความยุติธรรม ความเมตตา ความกรุณา ปราณีจากเขา เพราะมันไม่มี และไม่เคยมี

เขา ทำได้ทุกอย่าง ทั้งจับกุม คุมขัง ทำร้ายทำลาย อุ้มหาย เข่นฆ่าประชาชน แม้กระทั่งพวกเดียวกัน เพื่อ อำนาจ และผลประโยชน์

เขา ต้องการปกครองด้วยความกลัว ไม่ได้ปกครองด้วยหลักนิติรัฐ และ นิติธรรม

ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ไม่เคยมีชนชาติใด ชนะข้าศึกด้วยการทรมานตัวเอง หรืออดอาหารเพื่อประท้วงฝ่ายศัตรู จนตัวตาย

การต่อสู้ ที่จะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยของเราชนะได้ ฝ่ายเราจะต้องแข็งแกร่งทั้ง ร่างกาย จิตใจ ใช้สติปัญญา ใช้ความทรหด อดทน พร้อมสู้อย่างยืดเยื้อ ยาวนาน อย่างมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ด้วยอุดมการณ์ที่มั่นคง และเสียสละ

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง และ เวลาอยู่ข้างเรา ฝ่ายประชาธิปไตย

หากพวกเธอ ตาย

เขา ในฐานะจอมเผด็จการทรราช จะยินดีที่ลดจำนวนศัตรูของเขาลง

เขา จะใช้ความตายของน้อง เป็นเหตุผล เป็นเครื่องมือ สะกดฝ่ายประชาธิปไตยให้หยุดลุกขึ้นสู้ ไม่กล้าท้าทายอำนาจของเขา และสยบบังคับให้คนไทยเป็นทาส ไพร่ต่อเขา และระบอบของเขาตลอดไป ชั่วลูกชั่วหลาน

ชีวิต และ จิตวิญญาณของน้องทั้งสอง ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า มีความหมาย เป็นที่หวัง เป็นพลังของมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย อย่างประเมินค่ามิได้

การหยุดประท้วงด้วยการอดอาหาร ต่อจอมเผด็จการทรราช แล้วกลับมากินข้าว สร้างร่างกาย และจิตใจให้กลับมาเข้มแข็ง แล้วลุกขึ้นสู้ต่อไป จึงเป็นวิถีทางที่ถูกต้อง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มากกว่าที่จะตายเพื่อประชดจอมเผด็จการทรราช

พวกเราต้องการ และรอคอยให้น้องทั้งสอง ลุกขึ้นมาสู้กับพวกเรา และเอาชนะจอมเผด็จการทรราช ไปด้วยกัน