นายดอดด์ พร้อมด้วยนายริชาร์ด อาร์มิเทจ และนายเจมส์ สไตน์เบิร์ก ซึ่งเดินทางมาถึงไต้หวันเมื่อวันพุธที่ 14 เม.ย. เป็นคณะผู้แทนชุดแรกที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ส่งมาไต้หวัน ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม

การเยือนดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดยังเพิ่มขึ้นในภูมิภาค โดยรัฐบาลปักกิ่งเพิ่มการซ้อมรบทหารที่ดุดันใกล้ไต้หวัน และท่ามกลางการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างสหรัฐและจีนที่เพิ่มขึ้น โดยไม่นานหลังจากที่คณะผู้แทนจากสหรัฐถึงกรุงไทเป หน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลของจีนประกาศว่า การซ้อมรบทหารจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน และจะใช้เวลา 6 วัน

“จีนส่งเรือและเครื่องบินทหารไปซ้อมรบในน่านน้ำและน่านฟ้ารอบไต้หวันบ่อยครั้ง การกระทำเหล่านี้เปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ในอินโด-แปซิฟิกและคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค” ประธานาธิบดีไช่กล่าวต่อคณะผู้แทนจากสหรัฐ

“เรายินดีอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับประเทศที่มีใจเดียวกัน รวมถึงสหรัฐ เพื่อร่วมกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของอินโด-แปซิฟิกและยับยั้งการซ้อมรบและการยั่วยุที่อันตราย” เธอกล่าว

ประธานาธิบดีไช่ยังกล่าวว่า ไต้หวันยินดีแบ่งปันประสบการณ์กับประชาคมระหว่างประเทศในการต่อสู้กับการเผยแพร่ที่บิดเบือนข้อมูล เนื่องจากโลกกำลังวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสงครามทางความคิด

ผู้นำหญิงไต้หวันระบุว่า การเยือนโดยคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกาครั้งนี้เป็นการย้ำความเป็นหุ้นส่วนอย่างลึกซึ้งของไต้หวัน-สหรัฐ และว่านายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ยืนยันต่อสาธารณะว่า สหรัฐมั่นคงที่จะสนับสนุนไต้หวันหลายครั้ง

ขณะที่นายดอดด์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการผ่านกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันปี 2522 ที่กำหนดให้สหรัฐช่วยไต้หวันรักษาความสามารถในการป้องกันตนเองที่เพียงพอ ว่าความสำคัญของกฎหมายดังกล่าวยิ่งมีความชัดเจนยิ่งขึ้นในแต่ละปีที่ผ่านไป

นายดอดด์กล่าวว่า คณะผู้แทนสหรัฐจากพรรคสองฝ่ายก่อตั้งขึ้นตามคำขอของประธานาธิบดีไบเดน เพื่อยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐในการเป็นหุ้นส่วนกับไต้หวันซึ่ง “แข็งแกร่งกว่าที่เคย”

“คุณจะพบว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีไต้หวันเป็นเพื่อนที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ และผมมั่นใจว่า ฝ่ายบริหารชุดนี้จะช่วยให้คุณขยายพื้นที่ระหว่างประเทศและสนับสนุนการลงทุนในการป้องกันตนเอง” นายดอดด์กล่าว

ส่วนนายอาร์มิเทจกล่าวว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนสนับสนุนไต้หวันเพราะ “ประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่” ไม่ใช่เพราะสหรัฐพยายามยั่วยุจีน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศไต้หวันจนถึงวันที่ 12 เม.ย. รัฐบาลปักกิ่งก่อกวนทางทหารเข้าสู่น่านฟ้าใกล้ไต้หวัน 249 ครั้ง ในช่วง 74 วันของปีนี้ โดยเครื่องบินหลายลำเป็นเครื่องไอพ่นขับไล่