พม่าต้านรัฐประหาร : ประชาชนประท้วงเงียบ สาดสีแดงสื่อแทนเลือดตามหลายจุด

เมียนมาประท้วงเงียบ สาดสีแดงใส่ที่ทำการรัฐบาลทหาร

วันที่ 14 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์การประท้วงในเมียนมาว่าซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงเทศกาลปีใหม่เมียนมา หรือติงยาน ที่มีการเดินขบวนประท้วงย่อมๆ เกิดขึ้นในบางเมือง แต่ส่วนใหญ่แล้วชาวเมียนมายังคงตอบสนองต่อการเรียกร้องของแกนนำเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร ที่ขอให้ร่วมมือกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลติงยาน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 17 เมษายนนี้

การประท้วงเงียบเมื่อวันที่ 14 เมษายน คือการสาดสีแดงตามพื้นถนน และป้ายสัญลักษณ์ของที่ทำการรัฐบาล เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนเลือดของผู้ประท้วงที่ถูกตำรวจและทหารเมียนมาสังหารระหว่างการประท้วงที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่หลายแห่งทั้งในเมืองใหญ่และหัวเมืองย่อยต่างๆ ส่วนที่มัณฑะเลย์ ผู้ที่เข้าร่วมในการเดินขบวนพากันชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี และบรรดาผู้นำในรัฐบาลพลเรือนที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังการรัฐประหารเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาทิ “โปรดช่วยผู้นำของเรา รักษาอนาคต และความหวังของเรา”

รอยเตอร์ระบุว่า เหตุการณ์โดยรวมยังสงบ แม้ว่าจะมีการวางระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา โดยในวันเดียวกันนี้เกิดระเบิดย่อมๆ ขึ้นอีก 2 ครั้ง ที่เมืองโมนยวา ตอนกลางของประเทศ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม เมียนมานาว รายงานในวันเดียวกันนี้ว่า ที่เมืองตะมุ เมืองชายแดนติดต่อกับอินเดีย ทีมกู้ภัยพบศพคู่สามีภรรยาเชื้อสายกูรข่า ถูกยิงเสียชีวิตโดยร่างของคนทั้งสองพร้อมรถจักรยานยนต์พาหนะถูกทิ้งไว้ในคูระบายน้ำข้างถนนของเมือง โดยเชื่อว่าคนทั้งสองถูกทหารยิงเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา

ทางด้านนางมิเชล บาเชเลท ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงเตือนว่า เมียนมากำลังร่วงลึกเข้าไปในภาวะวิกฤตมากขึ้นเรื่อยๆ สู่สภาวะของความขัดแย้งรุนแรงเต็มที่แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย ซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมืองหลายฝ่าย กินเวลานานหลายปี และเศรษฐกิจพังยับเยิน พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องต่อนานาประเทศว่า ให้เร่งดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยทันทีเพื่อยุติการกดขี่และเข่นฆ่าประชาชนของตนเองอย่างทารุณโดยกองทัพเมียนมาลงโดยทันที