‘อียู-แอฟริกาใต้’ สั่งระงับฉีดวัคซีนโควิด ‘จอห์นสัน&จอห์นสัน’ ตามหลังสหรัฐ

‘อียู-แอฟริกาใต้’ สั่งระงับฉีดวัคซีนโควิด ‘จอห์นสัน&จอห์นสัน’ ตามสหรัฐ หลังพบผิดปกติ 6 ราย จากทั้งหมด 6.8 ล้านคน

สหภาพยุโรป (อียู) และแอฟริกาใต้สั่งระงับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน&จอห์นสันเป็นการชั่วคราว หลังพบรายงานการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่หาได้ยากและเกล็ดเลือดลดในผู้ได้รับวัคซีน

แม้จำนวนผู้ที่พบปัญหาจะมีเพียง 6 รายจากผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 6.8 ล้านรายในสหรัฐ แต่ทางบริษัทจอห์นสัน&จอห์นสันก็ประกาศระงับการส่งมอบวัคซีนให้กับอียูแล้วเช่นกัน หลังจากเพิ่งส่งมอบล็อตแรกไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้ และมีกำหนดที่จะส่งมอบอีก 50 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายน

ปัญหาลิ่มเลือดอุดตันที่พบในผู้ได้รับวัคซีนเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับวัคซีนต้านโควิด-19 ของออกซฟอร์ด/แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งทำให้หลายประเทศประกาศชะลอการฉีดวัคซีนดังกล่าว แม้ว่าในเวลาต่อมาหน่วยงานที่กำกับดูแลความปลอดภัยด้านยาของยุโรปรวมถึงองค์การอนามัยโลกจะออกมายืนยันว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากวัคซีนในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีมากกว่าความเสี่ยงก็ตาม

บริษัทจอห์นสัน&จอห์นสัน เป็นบริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ แต่วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทถูกพัฒนาโดยบริษัทลูกที่อยู่ในเบลเยียมที่ชื่อว่า Janssen ซึ่งมีความแตกต่างจากวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวอื่น เนื่องจากฉีดเพียงโดสเดียวจบ และสามารถเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิของตู้เย็นปกติ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการขนส่งไปยังประเทศที่มีอุณหภูมิสูงและในพื้นที่ที่ห่างไกล