“อนุทิน” โพสต์จวก นักการเมืองไม่รู้เรื่อง เอาวัคซีนโควิดโจมตีรัฐบาล ทำฉีดล่าช้า

รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จวก นักการเมืองไม่รู้เรื่อง ใช้วัคซีนโควิดโจมตีรัฐบาล ส่งผลให้ฉีดล่าช้า

วันที่ 13 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เรื่องวัคซีนโควิด เป็นเรื่องที่สร้างความสับสนให้กับประชาชนมาก เพราะมีการเล่นการเมืองบนวัคซีน ผมฟันธงแบบไม่กลัวผิด นักการเมืองที่ไม่มีความรู้เรื่องวัคซีน หยิบยกข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ มาขยายผล และตั้งข้อกล่าวหาวัคซีนแอซตราเซนเนกา และ ซิโนแวค ที่รัฐบาลจัดซื้อมา เป็นวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ

ทั้งๆ ที่วัคซีน 2 ตัวนี้ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ให้ใช้ได้ และมีการใช้ในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวัคซีน ยืนยันมาตลอดว่า วัคซีนทุกชนิดที่ใช้อยู่ในขณะนี้ แม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ได้ 100% แต่ป้องกันอาการป่วยหนัก

และลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้เกือบ 100% คนพูดไม่รู้ ไม่รับผิดชอบ คนรู้ไม่มีโอกาสพูด ทำให้ประชาชนสับสน และกระทบไปถึงการรับวัคซีนของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้การฉีดวัคซีน อาจจะไม่เป็นไปตามแผน ที่จะต้องเสร็จสิ้นในปีนี้ และทำให้การควบคุมโรคของประเทศไทย มีปัญหาได้

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค
แถลงย้ำหลายครั้งว่าวัคซีนแอซตนาเซนเนกา และ วัคซีนซิโนแวค มีประสิทธิภาพใช้ควบคุมโรค ได้ดี ส่วนผลข้างเคียงนั้น วัคซีนทุกชนิดมีผลข้างเคียง แตกต่างกันไป อยู่ที่ประชาชน จะเชื่อนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน หรือ เชื่อนักการเมืองที่ไม่มีความรู้เรื่องวัคซีน แต่มีเป้าหมายทางการเมือง เป็นสำคัญ

ไม่ต้องมากราบอกแบบหนที่แล้ว หรือมากราบเท้าคราวหน้าหรอก แต่ขอให้กราบแผ่นดิน เพื่อสำนึกคุณแผ่นดินไทย ที่ให้ที่ยืน ที่อยู่ ที่คุ้มหัวอย่างปลอดภัย บางคน แพทย์พูดให้ฟังดีๆ หลายครั้งไม่ยอมเข้าใจ ผมเลยต้องหยิบซอมาสีให้ฟังเปิดประชุมรัฐสภา เดือนพฤษภาคม นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะให้บริการวัคซีนแก่สมาชิกรัฐสภา ด้วยระบบสมัครใจของผู้รับวัคซีน ท่านใดไม่ประสงค์จะรับวัคซีน ด้วยเหตุใดก็ตาม ขอได้โปรดแจ้งที่รัฐสภา ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ท่าทีอันไม่พอใจของ รมว.สาธารณสุข นี้ มีขึ้นหลังจากที่ สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวระบุว่า จีนยอมรับแล้วว่าวัคซีนของซิโนแวคมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ต่ำ และกำลังหาวิธีอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันจากการติดเชื้อ ซึ่งซิโนแวคเป็น 1 ใน 2 วัคซีนที่ไทยรับเข้ามาท่ามกลางความข้อกังขาถึงประสิทธิภาพที่ยังไม่มีรายงานผลการทดสอบในเฟซ 3 ไม่นับรวมถึงประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่ถูกตั้งคำถามกับบริษัทใหญ่ของไทยซื้่อหุ้นบริษัทดังกล่าว