‘ชัยธวัช’ อัด รบ.เหมือนฝีใกล้แตก มรสุมรอบด้าน ชี้พรรคร่วม-เครือข่าย เริ่มตีตัวออกห่าง

‘ชัยธวัช’ ชี้รัฐบาลเหมือนฝีใกล้แตก เจอมรสุมรอบด้าน พรรคร่วมออกอาการตีตัวออกห่าง ไม่เสี่ยงร่วมแบก ‘ประยุทธ์’ คาด ปชช.ไม่ทนการลุแก่อำนาจจนอยู่ไม่ครบเทอม

วันที่ 12 เมษายน 2564 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ที่มีมวลชนนัดออกมาเคลื่อนไหว ว่าหลายปัญหารุมเร้ารัฐบาลจนเหมือนฝีใกล้จะแตก ความไม่พอใจของประชาชนพุ่งสูงโดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 มีคนของรัฐบาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ เรื่องโควิดจะชี้ขาดรัฐบาลหากบริหารจัดการไม่ได้ แต่เราต้องให้โอกาสรัฐบาลทำงาน

แม้เราเห็นแน่ๆ ว่าการบริหารจัดการวัคซีนนั้นบกพร่อง พรรค ก.ก.เตือนเรื่องนี้มาตลอด แต่ก็ต้องช่วยกันสนับสนุนผลักดันรัฐบาลให้จัดการได้ดีกว่านี้ เพราะปัญหานี้จะไปผสมกับปัญหาอื่นเดิมๆ ก่อนการระบาดระลอกใหม่เศรษฐกิจก็น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว ทั้งวิกฤตทางการคลัง เศรษฐกินระดับครัวเรือน บวกกับความไม่พอใจทางการเมือง คือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“เมื่อหลายอย่างรุมเร้าอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลที่เร็วขึ้นได้ แต่คิดว่าบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้เราอาจจะเริ่มเห็นการเว้นระยะห่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกฯ กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เช่น เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเห็นชัดว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เริ่มเว้นระยะห่างออกจากพรรค พปชร. เพราะรู้ดีว่าถึงจุดหนึ่งคงไม่สามารถแบกเอา พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นภาระพรรคของตน จนกระทบความนิยมทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

ส่วนตัวคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลรัฐบาลไม่น่าจะอยู่ครบเทอม แต่แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายตัวเองอาจยังเข้าใจไปเองว่ายังประคับประคอง และมีอำนาจค้ำบัลลังก์ตนเองไปจนครบวาระได้ และยังอยากจะอยู่ต่ออีกวาระหนึ่ง โดยคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรกับตนเองได้ จนบางครั้งเผลออะไรที่ลุแก่อำนาจ ก็เป็นอันตราย” นายชัยธวัชกล่าว

เมื่อถามว่ามีบทเรียนของจอมพลในอดีต ลุแก่อำนาจสุดท้ายจบชีวิตทางการเมืองไม่สวยสักคนที่ต่างประเทศ รอบนี้มีสิทธิซ้ำรอยประวัติศาสตร์หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า มองบทเรียนจุดจบของรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากการทำรัฐประหารแล้วก็อาจมีสิทธิจะจบแบบนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ฟางเส้นสุดท้ายของประชาชนไม่รู้จะอดทนได้นานแค่ไหน แต่รูปธรรมมันมีอะไรที่คาดไม่ถึงมาเป็นตัวกระตุ้นให้ประชาชนออกมาบอกว่ายอมไม่ได้อีกแล้ว

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นตัวแทนของระบอบประยุทธ์ องคาพยพอำนาจที่อยู่เหนือประชาชน เช่น กองทัพ กลุ่มนายทุนผูกขาดไม่กี่เจ้าที่ผูกพันกันด้วยระบบอุปถัมภ์ ส.ว. องค์กรอิสระ บางคนในเครือข่ายวันนี้ อาจเริ่มคิดผละหนีออกมาจากเรือลำนี้ หลังจากเห็นการลุแก่อำนาจผูกขาดอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ฟังใครก็อาจเป็นอันตรายในท้ายที่สุดก็ได้