“ศิริกัญญา” เช็กกระเป๋าตังค์รัฐบาล รับมือโควิด-19 ชี้งบกลางเหลืออีกบาน แต่ทำไมไม่นำมาใช้

วันที่ 10 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ศิริกัญญา ตันสกุล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสถานะทางการเงินของรัฐบาลในการเตรียมความรับมือการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ว่า

– สถานการณ์โควิดตอนนี้กำลังมีการระบาดระลอกใหม่ เริ่มมีมาตรการ/คำสั่งปิดสถานประกอบการออกมาเรื่อยๆ และคงตามมาด้วยการประกาศพื้นที่เสี่ยงในไม่ช้า นั่นหมายถึงผลกระทบต่อการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ปากท้องที่กำลังจะฟื้น กำลังจะกลับไปฟุบอีกครั้ง

– หน้าตักตอนนี้รัฐบาลน่าจะมีเงินสำหรับเยียวยาอยู่ราว 342,000 ล้าน จากเงินกู้ 1 ล้านล้านราว 220,000 ล้านบาท และจากงบกลางอีกเกือบ 120,000 ล้านบาท

– เงินกู้ 1 ล้านล้าน ในส่วนแผนงานเยียวยา 600,000 ล้านบาทใช้ไปหมดแล้วในการระบาด 2 ระลอก ถ้าต้องเยียวยาอีกรอบ ต้องโยกงบฟื้นฟูที่ยังไม่ได้อนุมัติมาใช้ เหลืออยู่ 220,000 ล้านบาท

– แต่จริงๆ แล้วยังทบทวนงบฟื้นฟูได้อีกรอบ เพราะที่อนุมัติไปก็เบิกจ่ายได้ต่ำมาก ถ้าระงับโครงการตอนนี้ จะได้งบเพิ่มอีกเกือบ 70,000 ล้านบาท

สถานการณ์โควิดตอนนี้กำลังมีการระบาดระลอกใหม่

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รอบนี้เริ่มเร่งตัวขึ้นอีกครั้งจากหลากหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะคลัสเตอร์ทองหล่อ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ ณ วันที่ 10 เม.ย. เพิ่มเป็น 789 ราย เริ่มมีมาตรการ/คำสั่งปิดสถานบันเทิงใน 41 จังหวัดทั่วประเทศ 22 จังหวัดประกาศให้ผู้ที่เดินทางจากกทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และนครปฐม ต้องกักตัว 14 วัน ศบค.ยังคงประวิงเวลาในการประกาศพื้นที่เสี่ยงในไม่ช้า น่าจะทำให้เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ไม่คึกคัก ประชาชนยกเลิกแผนการเดินทาง และท่องเที่ยวนั่นหมายถึงผลกระทบต่อการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ปากท้องที่กำลังจะฟื้น กำลังจะกลับไปฟุบอีกครั้ง

ถ้าสถานการณ์เลวร้าย และต้องเยียวยา รัฐบาลจะมีเงินพอมั้ย?

หน้าตักตอนนี้รัฐบาลน่าจะมีเงินสำหรับเยียวยาอยู่ราว 342,000 ล้าน จากเงินกู้ 1 ล้านล้านราว 220,000 ล้านบาท ที่เบิกจ่ายล่าช้ามากโดยเฉพาะแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอีกส่วนจากงบกลางที่ตั้งไว้ 140,000 ล้านยังเหลืออีกเกือบ 120,000 ล้านบาท

เริ่มจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่กำลังจะครบรอบ 1 ปีหลังจากการอนุมัติ มียอดการอนุมัติไปแล้วเกือบ 750,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 แผนงาน คือ แผนงานสาธารณสุข วงเงิน 45,000 ล้านบาท อนุมัติไป 20,000 ล้านเศษ แต่เบิกจ่ายไปเพียง 5,000 ล้าน สำหรับแผนงานนี้ที่เบิกจ่ายล่าช้า เพราะโครงการส่วนใหญ่เพิ่งอนุมัติไปเมื่อเดือนมีนาคม โครงการใหญ่ๆ ได้แก่ ค่าตอบแทนอสม. 2,500 ล้านบาท และสมทบค่าใช้จ่ายให้โครงการสปสช.หรือบัตรทอง 3,000 ล้านบาท

หมดก๊อกเงินเยียวยา 600,000 ล้านบาทจากพรก.เงินกู้

แผนงานที่ 2 แผนงานเยียวยาที่เคยตั้งไว้ 555,000 ล้านบาท ตอนนี้ขยายวงเงินเป็น 600,000 ล้านบาท และอนุมัติเกือบเต็มวงเงินแล้วที่ 596,000 ล้าน เพื่อรองรับการเยียวยาตั้งแต่ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ ‘เราชนะ’ ‘ม.33 เรารักกัน’ และเติมเงินบัตรคนจน ก็คงไม่เหลือเงินสำหรับเยียวยาในรอบนี้

งบแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจเบิกจ่ายสุดอืด 209 โครงการเบิกต่ำกว่า 10%!

แผนงานที่ 3 แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เคยตั้งวงเงินไว้ 400,000 ล้านบาท และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากตั้งแต่เริ่มต้นว่าจะมีการแบ่งเค้กกับส.ส. มีแต่โครงการตัดถนน ทำให้คณะกรรมการกลั่นกรองรับบทสุดเขี้ยว อนุมัติไปเพียง 1 ใน 3 อนุมัติว่าน้อยแล้ว เบิกจ่ายยิ่งต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

แผนงานย่อยพลิกฟื้นกิจกรรมเศรษฐกิจ ที่เคยขายฝันเกษตรอัจฉริยะ อุตสาหกรรม BCG ท่องเที่ยวเน้นคุณภาพ ได้อนุมัติไปเกือบ 30,000 ล้าน เบิกจ่ายไปไม่ถึง 5%!! 2 โครงการใหญ่ คือ โครงการเกษตรแปลงใหญ่ 13,904 ล้าน อนุมัติไปตั้งแต่ 15 ก.ย. 63 เบิกจ่ายเป็น 0! โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ขายเรื่องเพิ่มการจ้างงาน 10,000 ล้าน เบิกจ่ายไป 1,134 ล้านบาท!

แผนงานย่อยฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน โครงการหลักคือ “โคก หนอง นา โมเดล” 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกทำโดยกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) งบเกือบ 5,000 ล้าน เบิกจ่ายไปได้ 486 ล้านบาท รายละเอียดโครงการเป็นการตั้งศูนย์เรียนรู้โคก หนอง นา 337 แห่ง แต่ไปโผล่ในค่ายทหาร 157 แห่ง!?! เวอร์ชั่น 2 ใช้ชื่อ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ แต่ทำโคก หนอง นา เหมือนกัน เคยได้อนุมัติงบไปเกือบ 10,000 ล้าน แต่ทำไม่ไหว ลดลงมาเหลือ 3,550 ล้าน แต่สุดท้ายโครงการก็ยังไม่คืบหน้าเบิกจ่ายไปแค่ 229 ล้าน

แผนงานนี้ยังมีส่วนที่แต่ละจังหวัดขอมา รวม 204 โครงการ เพิ่งเบิกจ่ายไปแค่ 50 โครงการ!?! ที่เหลือยังไม่ได้เริ่มทำ…

แผนงานย่อยสุดท้าย แผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจ อนุมัติไปเกือบ 100,000 ล้านบาท ที่มาของงบโครงการ “คนละครึ่ง” (2 รอบ 52,500 ล้านบาท) “เราเที่ยวด้วยกัน” (15,000 ล้านบาท) แต่ก็มีโครงการที่แป้กอย่างโครงการ co-payment ของกระทรวงแรงงาน ที่อุดหนุนการจ้างเด็กจบใหม่ รัฐจ่ายให้ครึ่งนึง ที่อนุมัติงบเกือบ 20,000 ล้าน แต่เบิกจ่ายแค่ 200 ล้านบาท

โดยสรุปสำหรับแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยังเหลือเงินอีก 220,000 ล้านบาทยังไม่ได้อนุมัติ และสามารถโยกข้ามมาเป็นเงินเยียวยาได้ แต่ควรทบทวนโครงการเดิมที่เบิกจ่ายไม่ถึงไหน เพื่อปรับลดวงเงิน และนำมาโปะเป็นเงินเยียวยาได้อี

งบกลางปี 64 ยังเหลือบาน 1.2 แสนล้าน

ทั้งนี้ ศิริกัญญากล่าวว่า ก้อนสุดท้ายคือ งบกลาง จากที่ในปี 63 แฮชแท็ก #งบกลางหายไปไหน ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ ปีนี้คงต้องเปลี่ยนเป็น #งบกลางมีทำไมไม่ใช้ จากที่ขอสภาไป 139,000 ล้านเศษ เพิ่งอนุมัติไป 20,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ไปกับการซื้อวัคซีน 11,600 ล้านเศษ เท่ากับยังเหลืองบกลางอีกราว 120,000 ล้านบาท สามารถนำมาใช้เยียวยาได้อีก

ฝากให้พี่น้องประชาชนส่งเสียงดังๆ อีกครั้ง ถ้ายังล้มเหลวในการฟื้นฟู/กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จัดงบใหม่มาเยียวยาปัญหาปากท้องเฉพาะหน้าประชาชนก่อน ประคับประคองให้ไม่ต้องมีใครเดือดร้อน อดตายจากมาตรการควบคุมโรคระบาดในปีนี้