‘วิโรจน์’ เตือน ‘ประยุทธ์-อนุทิน’ อย่ารั้นคำเตือนหลังเปิดเสรีวัคซีนช้า ชี้ ปชช. สำคัญกว่าหน้าตา

‘วิโรจน์’ เตือน ‘ประยุทธ์-อนุทิน’ อย่าดื้อรั้น ถ้าสติปัญญามีไม่พอบริหารประเทศ ชี้ปากท้องปชช.สำคัญกว่าหน้าตา หลังเปิดเสรีวัคซีนล่าช้า
เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกได้ ว่า การอนุญาตแบบนี้ชี้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลแถมาโดยตลอด เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีสิ่งที่ห่วงที่สุดที่ไม่ใช่คุณภาพชีวิตของประชาชน และไม่ใช่ปากท้องของประชาชน แต่เป็นหน้าตาของตัวเอง เขาด่ากันมาเท่าไหร่แล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ออกมาแถ ออกมาเถียงว่าไม่ได้ปิดกั้น เพราะให้เอกชนมาขอการอนุญาตที่องค์การอาหารและยา (อย.) คำถามคือ ผู้ผลิตวัคซีนจะมาขอขึ้นทะเบียนกับ อย. ไปทำไม เพราะเขาจะซื้อขายกับรัฐบาล เมื่อรัฐบาลไม่มีนโยบายจะซื้อ และมาตรการรองรับให้เอกชนที่จะซื้อขาย ทางบริษัทผู้ผลิตก็ไม่มีเหตุผลการขอขึ้นทะเบียนกับทาง อย.

นายวิโรจน์ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะบริหารสถานการณ์วัคซีนล้มเหลวและล่าช้าแบบนี้ แต่ก็บอกว่าไม่ล่าช้า เพราะเอาไปเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ขณะนี้วัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็ขึ้นทะเบียนกับทาง อย. แล้ว แต่หากรัฐบาลไม่ซื้อก็ไม่มีใครซื้อ การที่รัฐบาลยอมให้นำเข้าวัคซีนทางเลือก 10 ล้านโดส ได้แบบนี้ คือ การสารภาพ ที่ไม่ใช่การสารภาพเชิงคำพูด แต่เป็นการคลานออกมาสารภาพเชิงพฤติกรรม

“อยากฝากเตือนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทินว่าต่อแต่นี้หากฝ่ายค้านหรือผู้เชี่ยวชาญ เตือนหรือแนะนำก็อย่าดื้อรั้น ตัวเองมีสติปัญญาจำกัดก็ฟังให้เยอะ ฟังคนอื่นและเชื่อคนอื่นบ้าง อย่าผูกขาดความหวังดีกับประเทศไว้กับตัวเอง ทั้งที่ตัวเองไม่มีสติปัญญาและที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตของประชาชน ปากท้องของประชาชน 67 ล้านคน สำคัญกว่าหน้าตาของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทินมาก ดังนั้นอย่ากลัวเสียหน้า” นายวิโรจน์ กล่าว