‘พิมพ์รพี’ สวนกลับ “สฤษฏ์พงษ์” พูดพาดพิง “นิพนธ์” โยงปมถามหาสำนึก หลังเกิดโควิดระลอก 3

ดร.พิมพ์รพี ยกปม นาที ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลแสดงทรัพย์สินเท็จ ไม่เคยแสดงสปิริต สวน ‘สฤษฏ์พงษ์’ พาดพิง “นิพนธ์” โต้เจ็บ สงสัยถุงมือยาง ทำไมยกมือไว้ใจทั้งพรรค ย้ำ รับไม่ได้ หากโควิด-19 ลาม ครม. – ส.ส. จากการเที่ยวสถานบันเทิง เหตุ เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย แต่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม แฉเพิ่ม! แหกกฏกักตัว เข้าประชุม กมธ.คลองไทย ทำสภาเสี่ยง

วันที่ 9 เมษายน 2564 ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook เรื่อง  ชี้แจงกรณี ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทยพาดพิง มีเนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่นายสฤษฏ์พงษ์ ส.ส.กระบี่พรรคภูมิใจไทย ออกมาตอบโต้เรื่องที่ตน แสดงความเห็นว่า รับไม่ได้ หากโควิด-19 ลามถึง ครม. และส.ส.เกิดจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง เพราะถือว่าขาดจิตสำนึก โดยกล่าวพาดพิงให้ไปถามหาสปิริตจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต และให้ทวงถามสปิริตการเมืองกรณีมีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องถุงมือยาง หน้ากากอนามัยนั้น

ดร.พิมพ์รพี ระบุว่า คำสัมภาษณ์ของนายสฤษฏ์พงษ์ เห็นชัดว่าเป็นประเภทฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด จึงอยากให้นายสฤษฏ์พงษ์ ไปอ่านคำสัมภาษณ์ของตนเองให้ละเอียด จะเห็นว่าไม่ได้มีการพาดพิงชื่อใครทั้งสิ้น แต่เป็นการพูดในเชิงหลักการว่า รับไม่ได้หากโควิดลามถึงครม.และส.ส.จากการไปเที่ยวสถานบันเทิง แต่นายสฤษฏ์พงษ์ กลับร้อนตัวออกมาตอบโต้ อ้างถึงมารยาททางการเมือง จึงอยากให้เข้าใจว่า คนเป็นผู้แทนปวงชนมีหน้าที่รักษาประโยชน์ชาติ ที่ต้องมาก่อนทุกเรื่อง

ส่วนที่พาดพิงถึงนายนิพนธ์นั้น ก็มีการใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากนายนิพนธ์ ไม่ได้ถูกป.ป.ช.ชี้มูลจากเหตุทุจริต แต่เป็นการกระทำผิดตามมาตรา 157 ซึ่งอยู่ระหว่างสู้คดี และกฎหมายไม่ได้กำหนดว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วต้องออกจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับที่นางนาที รัชกิจประการ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เคยถูกป.ป.ช.ชี้มูลว่า แสดงบัญชีทรัพย์สินเท็จ ก็ไม่เคยลาออกจากตำแหน่ง หนำซ้ำเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 1 เดือน รอลงอาญา 1 ปี ก็ยังไม่ลาออก ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์  กระทั่งศาลฎีกาฯยืนคำพิพากษาเดิม จึงพ้นความเป็นส.ส.ไปตามกฎหมาย

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยังระบุด้วยว่า นายสฤษฏ์พงษ์ ยังกล่าวพาดพิงไปถึงปัญหาถุงมือยาง ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา โดยในการลงมติพรรคภูมิใจไทยทั้งพรรคก็ยกมือไว้วางใจ หากมีปัญหาทำไมไม่แสดงออกตั้งแต่ตอนนั้น เพราะรัฐธรรมนูญก็ให้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองให้ลงมติได้โดยอิสระอยู่แล้ว

“ดิฉันยังยืนยันว่า การถามหาสำนึกคนเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย กรณีหากไปติดโควิด-19 จากสถานบันเทิงนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และย้ำว่ารับไม่ได้หากการติดโควิด-19 ในแวดวง ครม.และส.ส.จะมาจากการเที่ยวสถานบันเทิง เนื่องรัฐบาลออกมาตรการควบคุมโรค แต่คนที่อยู่ในระดับนำในสังคมกลับเป็นผู้ละเมิดเสียเอง สะท้อนว่าขาดสำนึกสาธารณะ ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมนายสฤษฏ์พงษ์ ไม่ตระหนักในเรื่องนี้

เพราะในขณะที่ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทุกคนกักตัว เนื่องจากมีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 นายสฤษฏ์พงษ์ กลับเดินทางมาประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย ที่สภาเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.64) การกระทำแบบนี้ก็ควรถูกตั้งคำถามเรื่องสำนึกสาธารณะด้วยเช่นเดียวกัน เพราะทำให้สภาอยู่ในความเสี่ยง ” ดร.พิมพ์รพี ระบุทิ้งท้าย