วันที่ 9 เมษายน 2564 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีออกมาเปิดเผยนักการเมืองที่เข้าใช้บริการสถานบันเทิงย่านทองหล่อที่ได้เกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 และมีกระแสข่าวในการขู่ฟ้องจากการออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

สิ่งที่ผมพูด มีหลายคนขู่จะฟ้องผม แต่ผมเลยเส้นความกลัวมามากแล้ว เฉียดตายก็หลายหน คุกตะรางก็หลายรอบ

ผมใช้ประสบการณ์ให้เป็นความรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนที่ไม่เคยเห็นอีกแง่มุมหนึ่งของสังคม

มิได้มีเจตนากล่าวร้ายให้ใครต้องเสื่อมเสียโดยส่วนตัว

สังคมไทยมักดัดจริตรักษาภาพลักษณ์ แต่ไม่ยอมรับความจริง

เพราะความจริงย่อมโหดร้ายกว่าคำสรรเสริญเยินยอมากมาย

หากจะมีใครสักคนที่กล้ายอมรับความจริง และเอาไปแก้ไขให้สังคมไทยดีขึ้น

ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าจะกดทับความจริงเอาไว้ แล้วมาขู่กับคนที่กล้าพูดความจริง

ความเท็จของท่านนั้นเป็นอัตตาที่ดูยิ่งใหญ่ดั่งภูผา โกหกไปมิได้มีประโยชน์ใดๆ เลยสักนิดต่อประชาชน และประเทศชาติ

หันหน้ามาพูดความจริงกันเถอะครับ

เพราะผมนั้นพูดความจริงแล้ว แต่ท่านสิ พูดความจริงแล้วหรือยัง?