ฝ่ายค้าน ยันจุดยืนเดิม แก้รธน.ทั้งฉบับ ไล่รบ.ลาออกหากไม่ผ่านวาระ 3

ฝ่ายค้าน ยันจุดยืนเดิม แก้รธน.ทั้งฉบับ ไล่รบ.ลาออกหากไม่ผ่านวาระ 3

วันที่ 8 เมษายน 2564 เมื่อเวลา 15.00 น.  ที่ห้อง 309 รัฐสภา แกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงภายหลังหารประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า ประเด็นแรก พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม ยังมีเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอีกหลายเรื่องที่พรรคฝ่านค้านต้องร่วมกันคิดแก้ปัญหาเหล่านี้ เราจึงคิดว่าจะประชุมกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง และจะเดินสายพบพี่น้องประชาชน 4 ภาค ในช่วงปิดสมัยประชุมเพื่อลงไปดูความเดือดร้อน และฟังเสียงประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประเด็นต่อมาคือ ท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันแล้วเห็นว่า 1.เรายังยืนยันจุดยืนเดิมของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เราจึงยืนยันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยให้พี่น้องประชาชนมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วม 2.ระหว่างนี้มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งเราเห็นว่าสามารถทำคู่ขนานกันไปได้ แต่การแก้ไขรายมาตราต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้เป็นสำคัญ 3.เราจะอาศัยช่วงปิดสมัยประชุมนี้พบปะพี่น้องประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น และรวบรวมความคิดเห็นมาเพื่อนำมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 4.เราจะยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอีกครั้ง โดยจะพยายามยื่นให้ทันในการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ครั้งที่แล้วถูกคว่ำเพราะอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าให้ไปทำประชามติก่อน แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าการดำเนินการของเราถูกต้อง และเรายืนยันว่าจะยื่นแก้รัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 อีกครั้ง ซึ่งหากต้องไปทำประชามติก่อน ก็ไปทำประชามติก่อน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เราจะเอาบทเรียน และร่างที่ตกไปครั้งที่แล้วเป็นหลัก โดยยึดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และความต้องการของประชาชนเป็นหลักด้วย ซึ่งเราได้ให้แต่ละพรรคในพรรคร่วมฝ่ายค้านไปประชุมหารือกันก่อนมาประชุมร่วมกันด้วย

เมื่อถามถึงกรณีองค์ประชุมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ล่ม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ส.ว.ท่านหนึ่งเสนอตรวจขสอบองค์ประชุมโดยการขานชื่อ แม้จะมีการอธิบายกันอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อมีการประชุมในมาตราต่อไป มีสมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งนั่งอยู่นอกห้องประชุมโดยไม่ยอมเข้าห้อง เหมือนมีเจตนาทำให้องค์ประชุมลม ทั้งที่ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านในอยู่ในห้องประชุมครบ และพร้อมพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว

เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ส.ว.บางคนไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม จนทำให้องค์ประชุมล่มลงไป ทำให้ร่างพ.ร.บ.ที่รัฐบาลเสนอขึ้นมาเอง ในฐานะกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปแต่กลับปล่อยให้การประชุมเป็นภาระของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งนี้ มีการอ่านพ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุมแล้ว ดังนั้น ต้องรอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาในสมัยสามัญซึ่งต้องรออีก 2 เดือน เรารู้สึกผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของรัฐสภามาก อย่างไรก็ตาม ขอเรียนร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกหากพ.ร.บ.ประชามติฉบับนี้ไม่ผ่านการพิจารณาในวาระ 3

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท. กล่าวว่า เราไม่คิดว่าการประชุมจะจบลงแบบนี้ เป็นี่น่าสังเกตว่มีผู้ที่อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่ยอมลงชื่อเป็นองค์ประชุม และอยู่นอกห้องประชุมแต่ไม่ยอมเป็นองค์ประชุม ทำให้กฎหมายประชามติที่เราพยายามผลักดันเพื่อมาแก้ปัญหาต้องรอไปอีก ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายปฏิรูปที่เสนอโดยรัฐบาล จึงเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ทั้งยังเป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ผู้สนองพระบรมราชโองการต้องรับผิดชอบ ตนจึงขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งตอกย้ำให้เราเห็น่าการมีสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ได้มากจากพี่น้องประชาชน แต่มาจากผู้มีอำนาจจึงมุ่งเน้นทำตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ไม่ใช่ทำตามที่ประชาชนต้องการ ไม่ได้ไขข้อข้องใจให้พี่น้องประชาชนในเรื่องที่มีปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลไปขอพระบรมราชโองการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญแต่สุดท้ายองค์ประชุมก็ล่ม แสดงให้เห็นว่าส.ว และส.ส.ซีกรัฐบาลทำตามใจชอบ ดังนั้น รัฐบาลและส.ว.ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น การมีวุฒิสภาแบบนี้ไม่รู้ประเทศจะมีไปทำไมฝากให้พิจารณาตัวเองด้วย

ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า เจตนาต้องการเตะถ่วง และขัดขวางไม่ให้มีช่องทางในการทำประชามติเพื่อให้มี ส.ส.ร. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่านอ้างมรตลอดว่าต้องไปฟังเสียงประชาชนก่อน เป็นการเล่นกล เล่นปาหี่ ลุแก่อำนาจ ขอเตือนส.ว. และพล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ต้อไปอีก ประชาชนกำลังจะหมดความอดทน และการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ และส.ว.จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะทั้งปัญหาโควิด และเศรษฐกิจท่านก็แก้ไม่ได้ ถ้าท่ายังเป็นแบบนี้อีก ตนคิดว่าคงต้องขับไล่รัฐบาล และส.ว.

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดึ้นต้องขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่พยายามไกล่เกลี่ย แต่ทางส.ว.มีท่าทีบ่ายเบี่ยง ไม่รับ สุดท้ายแม้ประธานขอให้ประชุมต่อ ถ้าไม่ไหวค่อยเลิก พอเข้าห้องประชุม ส.ว.ก็เลิกจริงๆ แสดงให้เห็นว่าเขากลัวการถามประชาชนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เลยพยายามหนี ซึ่งทางเดียวที่หนีได้ก็คือการพยายามทำให้พ.ร.บ.ประชามติช้าออกไปให้ได้มากที่สุด ถ้าทำให้กฎหมายตกไปได้ก็คงทำไปแแล้ว ดังนั้น ตนขอประณามอีกเสียง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคปช. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับประชาชน แต่เราฝ่ายค้านยืนยันว่า เราจะยนเคียงข้างประชาชน และจะทำทุกวิถีทางที่จะนำประชาธิปไตยกลับคืนมาให้ประชาชนให้ได้