ก้าวไกล นัดถกกรอบแก้ไขรธน.วันนี้ เน้นทำลายอำนาจ ส.ว.-รื้อยุทธศาสตร์ชาติ

‘วิโรจน์’ เผย ‘ก้าวไกล’ นัดถกกรอบแก้รธน.วันนี้ เล็งเป้าทลายอำนาจ ‘ส.ว.’ ตัวการทำประเทศไม่พัฒนา ลุยรื้อแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาปชช.

วันที่ 6 เมษายน 2564 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรคเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ในวันนี้พรรคก.ก. จะประชุมหารือถึงประเด็นดังกล่าว เบื้องต้นกรอบที่พรรคจะแก้ไขคือ แผนการปฏิรูปประเทศ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องยอมรับว่าใช้ไม่ได้ผลในสถานการณ์ปัจจุบัน

เช่น ปัญหาการฉีดวัคซีนโควิด-19 ล่าช้า ปัญหาน้ำแล้ง และน้ำท้วม ที่เป็นระบบเครือข่ายและการทำงานของหน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเต็มไปหมด ทำให้การปฏิรูปประเทศกลายเป็นการปฏิรูปไปสู่ระบบราชการล้าหลัง เราจึงต้องโฟกัสเรื่องการปฏิรูปประเทศ เพราะเกี่ยวข้องกับปากท้องของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุตอนหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เมษายน ในการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ ว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติมีความจำเป็นเพื่อเป็นกรอบให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเองยึดอำนาจ 20 ปี

นายวิโรจน์ กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ มีความสำคัญหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ถามว่า ใช้ได้ผลหรือไม่ รัฐบาลสามารถตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีหรือไม่ ก่อนหน้านี้เคยคุยโวว่า ไทยจะฉีดวัคซีนเป็นชาติแรกของโลก แต่วันนี้เราฉีดวัคซีนช้ากว่าอินโดนีเซียเยอะมาก เมื่อผลลัพธ์ออกมาแย่ แสดงว่ากระบวนการหรือวิธีคิดก็แย่ แล้วยังจะยึดวิธีคิดแย่ๆ ต่อไปอีกหรือ

หากแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้จริงจะเกิดกรณีของคุณพิมรี่พายหรือ หรือหากปฏิรูปการศึกษาได้จริง จะยังมีโรงเรียนบนเขา ที่ถูกบังคับให้เรียนออนไลน์ทั้งที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ได้อย่างไร แล้วจะยังยืนยันที่จะให้มีแผนยุทธศาสตร์ชาติในรัฐธรรมนูญอีกหรือ การแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นระบบราชการเช้าช้อนเย็นช้อน ประเด็นนี้เป็นการมองเรื่องปากท้อง และความก้าวหน้าของประเทศโดยที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนส.ว. 250 คน ที่มีส่วนสำคัญกับการปฏิรูปประเทศ เราก็พบว่า ส.ว.เหล่านี้จะเข้ามาริดรอนสิทธิของส.ส. ในการออกกฎหมายสำคัญ ทำให้ประเทศไม่พัฒนา ล่าสุดร่างพระราชบัญญัติ​ (พ.ร.บ.) ข้อมูลข่าวสารราชการ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งผ่านความเห็นชอบ กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เป็นกฎหมายที่ให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนหรือไม่ เปิดให้มีการอ้างเรื่องความมั่นคง หรือสถาบันฯ เพื่อมาเป็นเกราะไม่ให้เกิดการตรวจสอบหรือไม่

“ปากที่บอกว่าต้องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น แต่กลับไม่มีความโปร่งใสเรื่องการเปิดข้อมูลต่อสาธารณะ นี่คือความล้าหลังของการปฏิรูปประเทศอย่างชัดเจน และคนที่ขวางการปฏิรูปประเทศอย่างชัดเจนคือ ส.ว. 250 คน เราจึงต้องตั้งคำถามว่าควรจะมี ส.ว. 250 คนอยู่ในรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายวิโรจน์ ระบุ