แกนนำราษฎร : ‘เพนกวิน’ ให้กำลังใจ ‘รุ้ง’ อย่าได้ห่วง ยังไม่ตายจนกว่าเผด็จการจะตาย ‘ราชทัณฑ์’ เผยอาการล่าสุด

‘เพนกวิน’ ให้กำลังใจเพื่อน ชี้ ‘ธารน้ำตาที่อาบแก้มเพื่อน คือธารน้ำตาแห่งความอยุติธรรม’ ย้ำยังไม่ตายจนกว่าเผด็จการจะตายจาก ‘ราชทัณฑ์’เผย ‘รุ้ง-ปนัสยา’ อดอาหารมื้อเย็น 3 วัน

วันที่ 31 มีนาคม 2564 เฟซบุ๊ก เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
​เมื่อวานได้ฟังคำแถลงอดอาหารเคล้าน้ำตาของเพื่อน แม้จะได้ยินไม่แจ่มชัดทุกถ้อยคำ เพราะนั่งงอมอยู่บนรถเข็น แต่ฟังแล้วก็ได้ยินถึงเสียงหัวใจ เสียงที่เพื่อนๆ เอ่ยต่อศาล แม้ไม่ใช่น้ำเสียงที่ดุดันหาญห้าวแต่ก็เป็นเสียงที่สั่นเครือ ด้วยความจริงใจของคนที่ไม่เข้าใจถึงความปรารถนาให้ประเทศพัฒนา ก้าวหน้า และผู้คนมีชีวิตที่ดีนั้นมันเป็นความผิดได้อย่างไร

น้ำตาที่เพื่อนหลั่งไม่ได้แสดงถึงความอ่อนแอ แต่กลับเผยให้เห็นถึงความจริงใจและซื่อตรงต่ออุดมการณ์อย่างที่เพื่อนเป็นมาโดยตลอด ธารน้ำตาที่อาบแก้มเพื่อนคือธารน้ำตาแห่งความอยุติธรรม ธารน้ำตาสายนี้ไม่ได้อาบแค่แก้มรุ้ง แต่ยังอาบแก้มเรา อาบแก้มเพื่อนๆ ทุกคน และอาบแก้มมวลชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ อยากจะบอกให้รุ้งได้รู้ว่าเมื่อวานนี้ทุกคนในห้องพิจารณาคดี แม้กระทั่งผู้คุมที่ยืนเฝ้าอยู่ก็ร่วมหลั่งน้ำตาไปกับเพื่อนด้วย

การอดอาหารประท้วงเป็นหนทางการต่อสู้ที่วีรชนประชาธิปไตยผู้ยิ่งใหญ่หลายคนได้ยอมเดินผ่าน เป็นการต่อสู้กับตนเองเพื่อพิสูจน์ว่าความยากลำบากและความทุกข์ทรมานใดๆ ก็ไม่อาจทำลายอุดมการณ์ของเราได้ เพื่อนอาจจะเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากในหนทางนี้ เพราะการอดอาหารประท้วงเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีเวลาพักเบรกเลย แต่ความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบากนี้เองจะเป็นเพลิงไฟที่เผาและตีเราให้เป็นเหล็กที่แข็งกล้ากว่าที่เราเคยเป็น เมื่อเรากลับไปต่อสู้ข้างนอก

เราจะได้เป็นดาบที่แกร่งและคม ในสงครามประชาชนครั้งนี้​เราเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ และเชื่อว่าทั้ง คุณพรหมศร ที่อดข้าวอยู่เรือนจำอำเภอธัญบุรี และ คุณพรชัย ที่อดข้าวอยู่ที่เรือนจำเชียงใหม่ รวมถึงเพื่อนๆ และมวลชนทุกคน ก็จะเป็นกำลังใจให้รุ้งด้วยเช่นกัน หากวันใดที่ท้อ ขอให้นึกถึงก้าวการต่อสู้ที่เราย่างเดินผ่านมา และที่เรากำลังย่างเดินไปถึงเส้นชัยในไม่ช้านี้

ส่วนที่รุ้งบอกว่ากลัวเราจะตายนั้นอย่าได้ห่วง เราจะยังไม่ตายจนกว่าเผด็จการจะตาย แม้ขาเราจะไม่มีแรงจนต้องนั่งรถเข็น แม้น้ำตาลในเลือดเราจะต่ำ จนวิงเวียนวูบจนต้องใส่น้ำเกลือ เขาก็จะยังไม่ตาย เมื่อพวกเราทวงคืนความยุติธรรมได้แล้ว เราจะฟื้นฟูเรี่ยวแรงกาย แล้วออกเดินบนหนทางการต่อสู้เผด็จการ เหมือนที่เราเดินผ่านมา

เป็นห่วง ดูแลตัวเองให้ดี รักและคิดถึงเพื่อนเสมอ

เพนกวิ้น – พริษฐ์ ชิวารักษ์

​​​​​วันที่ 30 มีนาคม 64
​​​​​ณ สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี

ขณะที่ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ แถลงความคืบอาอาการของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ซึ่งขณะนี้ถูกกักขังอยู่ที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี ที่มีกระแสข่าวว่าอาการทรุดหนักจากการอดอาหาร นั้น ขอยืนยันว่า นายพริษฐ์  อาการยังคงปกติ  ไม่มีอาการหน้ามืดเวียนศีรษะ มีสีหน้าสดชื่นขึ้น พบเพียงอาการอ่อนเพลีย ริมฝีปากแห้งเล็กน้อย และอาการแสบท้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดูแลให้ยาเคลือบกระเพาะตามแผนการรักษาแล้ว ส่วนผื่นคันบริเวณหน้าอกและหลังลดลงจากเดิม

โดยทั่วไปถือว่ายังไม่น่าเป็นห่วง แม้เจ้าตัวยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร แต่ได้ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและดื่มเกลือแร่ทดแทน อาการล่าสุดของนายพริษฐ์ฯ เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจรักษาในวันนี้ (31 มีนาคม 2564) เวลา 07.00 น. พบว่าสัญญาณชีพโดยทั่วไปปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.6 องศาเซลเซียส อัตราเต้นของหัวใจ 66 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 18 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 123/75 มิลลิเมตรปรอท และน้ำหนักตัว 103 กิโลกรัม

“การขอย้ายนายพริษฐ์ฯ ไปยังโรงพยาบาลอื่น เป็นสิ่งที่ญาติผู้ต้องขังหรือผู้ต้องกักขังสามารถเรียกร้องได้ตามสิทธิและขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล แต่เบื้องต้น ในกระบวนการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ หากมีผู้ต้องขังป่วยจนต้องออกไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก กรมราชทัณฑ์มีโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่ การรักษาของแต่ละเรือนจำและทัณฑสถานเพื่อรองรับอยู่แล้ว รวมถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เอง ก็เป็นโรงพยาบาลในสังกัดกรมราชทัณฑ์ที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลรักษาเพียบพร้อมเทียบเท่าโรงพยาบาลทั่วไป

ซึ่งเบื้องต้น นายพริษฐ์ ไม่มีความประสงค์ที่จะย้ายตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และยังไม่พบอาการผิดปกติจนน่ากังวล รวมถึงสถานพยาบาลประจำสถานกักขังฯ ก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลให้การดูแลรักษาตลอดเวลา และมีความพร้อมในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลแม่ข่ายหากมีเหตุฉุกเฉินอยู่แล้ว” นายธวัชชัยกล่าว

นายธวัชชัย  ยังกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิของนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นั้น เบื้องต้น ได้รับแจ้งจากนางสาวปนัสยา ว่าต้องการงดอาหารมื้อเย็น 1 มื้อ เป็นระยะเวลา 3 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2564) ส่วนอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันยังคงรับประทานอยู่ และมีการทำกิจกรรมอื่นๆ รวมถึงการเข้าพบทนายเพื่อปรึกษาเรื่องคดีความตามปกติ

นายธวัชชัย   กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ต่อกระแสข่าวลือต่างๆ กรมราชทัณฑ์มีความยินดีที่จะไขข้อข้องใจให้ประชาชนได้รับทราบในทุกประเด็น แต่เนื่องจากบางเรื่องอาจจะมีความละเอียดอ่อน ที่ต้องรวบรวมพยาน หลักฐานต่างๆ เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งต้องมีระยะเวลาในการดำเนินการพอสมควร จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานและรอติดตามการชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์เพื่อความชัดเจน มากกว่าจะเชื่อกระแสข่าวลือที่อาจจะสร้างความเข้าใจผิดได้

คดีมาตรา 112 พุ่ง 81 ราย ใน 72 คดี

ทั้งนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความในวันนี้ ในทวิตเตอร์ @TLHR2014 โดยระบุว่า

“วานนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยรัฐ จงเทพ กลายเป็นสองรายล่าสุดที่ถูกกล่าวหาในข้อหาตาม #ม112 ทำให้ยอดผู้ถูกดำเนินคดี #ม112 จากการติดตามของ #TLHR นับจากพ.ย.63 เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 81 ราย ใน 72 คดีแล้ว ในจำนวนนี้มี 12 คน ที่ถูกคุมขังระหว่างต่อสู้คดี”