ในที่สุด! เรือยักษ์ขวางคลองสุเอซ ลอยออกจากฝั่งแล้ว หลังเกยค้างเกือบสัปดาห์

วันที่ 29 มีนาคม บีบีซี รายงานว่า เรือ เอเวอร์ กิฟเว่น ที่ขวางคลองซูเอซ เกือบสัปดาห์ ทำให้เรือขนส่งสินค้าจากทั่วโลก ได้รับผลกระทบไม่สามารถส่งสินค้าได้นั้น เป็นอิสระแล้ว

โดย รายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพของเรือ เอฟเวอร์ กิฟเวน ที่ถูกลากออกมาลอยในคลองซูเอซ ได้แล้ว และยังได้เห็นที่ว่างในคลอง ขณะที่ อินซ์เคป ได้ระบุว่า เรือดังกล่าว ได้ขยับออกเวลา 04.30 น. ของวันนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า อินซ์เคป ผู้ให้บริการทางทะเล เผยว่าได้ช่วยเรือได้สำเร็จ โดยใช้เรือลาก 10 ลำ เพื่อช่วยให้เรือลอยได้อีกครั้ง โดยมีการขุดทรายถึง 27,000 ลูกบาศก์เมตร บริเวณริมคลองสุเอซที่ติดกับตัวเรือออก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่า การจราจรทางน้ำในเส้นทางดังกล่าว จะเปิดให้สัญจรได้เมื่อไหร่ และต้องใช้เวลาเท่าใดในการเคลียร์เส้นทางดังกล่าว ที่มีเรือมากถึง 450 ลำ ที่ติดค้าง และรอจะเดินทางผ่านคลองสุเอซไปจุดหมายต่อไป

ก่อนหน้านี้ เรือขนส่งสินค้า เอเวอร์ กิฟเวอน ที่มีความยาว 400 เมตร ประสบกับพายุทราย จนกระทั่งเรือฝั่งหนึ่ง ได้ขวางการสัญจรของคลองซูเอซ ตั้งแต่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา

สินค้าไทยค้างอยู่ 600 ตู้

ด้านนางสาวกัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวกับประชาชาติธุรกิจออนไลน์ว่า จากการติดตามปัญหาขณะนี้เรือ Ever-Given สามารถลอยขึ้นมาได้แล้ว เนื่องจากมีการขุดทรายไปกว่า 27,000 คิว เพื่อให้เรือลอยตัวขึ้น ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้สามารถเปิดทางให้เรือขนส่งสินค้าที่ลอยรำอยู่ทั้ง 2 ฝั่งกว่า 300 ลำสามารถผ่านไปได้ ซึ่งหากสามารถเปิดทางได้ 1 เส้นทาง จะทำให้เรือสินค้าก็เชื่อว่าจะสามารถระบายเรือสินค้าได้ในระดับหนึ่ง

“การเปิดเส้นทางเดินเรือ 1 เส้นทางได้ ก็จะทำให้เรือขนส่งสินค้าที่ลอยลำผ่านไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าจะเปิดได้มากน้อยแค่ไหน หากเป็นเรือขนาดเล็กเชื่อว่าไม่มีปัญหา แต่สำหรับเรือขนาด 400 เมตร ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ บรรจุตู้สินค้าได้ 24,000 ตู้ อาจจะผ่านลำบาก เพราะความกว้างของคลองสุเอซไม่ได้กว้างมาก ดังนั้น การจัดการจราจรเพื่อให้เรือผ่านไปได้ ก็ต้องมีการจัดระเบียบด้วยเช่นกัน”

ขณะนี้เรือ 300 ลำ ที่ลอยลำอยู่ขนส่งล่าช้าออกไปแล้ว 1 อาทิตย์ และมีตู้สินค้าที่ตกค้างในอยู่ประมาณ 800,000-1,000,000 ตู้ ส่วนมีสินค้าไทยมีประมาณเท่าไรก็อยู่ระหว่างการติดตามอยู่ แต่สำหรับตู้สินค้าไทยที่อยู่บนเรือ Ever-Given มีอยู่ประมาณ 600 ตู้ สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าที่ส่งออกไปยุโรป เช่น สินค้าอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ถ้าหากสามารถเปิดให้เดินเรือได้ใน 1-2 วันนี้ ก็เชื่อว่าผู้ส่งออก สายเดินเรือ ยังคงใช้คลองสุเอซในการขนส่งสินค้า แต่หากใช้เวลานานในการแก้ไขผู้ส่งออกก็ต้องประเมินก่อนว่าจะเปลี่ยนเส้นทางขนส่งหรือไม่ เรือที่ติดปัญหาจะแก้ไขได้เร็วหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนเส้นทางย่อมมีเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่าย ค่าระวางเรือด้วยและระยะเวลาในการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และเสียโอกาสในการแข่งขันด้วย